Thai Festival in Osaka 2006
สัวสดีค่ะ..
ตอนนี้อากาศที่ญี่ปุ่นเริ่มจะกลับมาเย็นๆนิดหน่อยอีกครั้ง
หลังจากทนตรากตรำกับความร้อนระอุของฤดูร้อนมานาน.. จนทำให้ผิดที่เคยขาวใส ดำขลับไปอย่างน่าสะพรึงกลัว เหอๆ
งาน Thai Festival in Osaka ในปีนี้เป็นงานสุดท้ายที่เราจะได้มาช่วยงานสมาคมนักเรียนไทยฯ ปีที่แล้วงานนี้ก็เป็นงานแรกเลยที่ได้ (จับพลัดจับผลู) มาทำ อ่านเรื่องราวของงานปีที่แล้วได้ที่นี่
งานปีที่แล้วคืองาน Thai Food Festival แต่ปีนี้เหลือแค่ Thai Festival เฉยๆ เพราะว่ามันไม่ได้มีแค่อาหารอ่ะสิ
หน้างาน ปีนี้จะที่สวนสาธารณะ Tennoji ที่เดิม
โปรแกรมงาน
ก่อนจะเข้าเรื่องความบ้าของเรา.. ขอเข้าเรื่องหน้าที่ก่อนนะ เดี๋ยวจะหาว่าเราไม่ทำอะไรเอาเวลาไปดูคอนเสิร์ตอย่างเดียว ฮ่าๆๆ
หน้าที่อันนั้นก็คือ.... เฝ้าซุ้ม!!!
พี่กบ โบว์ และโดนัท ที่ซุ้มของสมาคมนักเรียนไทยฯ
อ๊ะอ๊ะ.. อย่าหาว่าไร้สาระนะจ๊ะ
เฝ้าซุ้มนี่ต้องใช้ skill ภาษาญี่ปุ่นพอสมควรนะจะบอกให้ เหอๆ ซึ่งเราไม่ค่อยได้ใช้หรอก ปรกติแล้วพี่กบจะเป็นคนใช้ เหอๆๆๆ ใครมาถามอะไรยากๆเราโยนให้พี่กบตอบตลอด.. เหอๆๆ
ไปดูกันดีกว่าว่านักเรียนไทยคนอื่นนอกจากงานเฝ้าซุ้มเนี่ย เค้าทำอะไรกันบ้าง
เริ่มจาก...
บุ๋ย (น้องเม็ดข้าว) และพี่ปุ้ม เป็นมาสคอสให้กรมการค้าส่งออก โปรโมทข้าวไทยค่า
นอกจากนี้ก็ยังมีพี่ต้น พี่หนา และพี่ใหม่ที่ขายอาหารไทย ตักข้าวแกง ย่างไก่ ทอดกล้วยกันจนมือระวิงทีเดียว
วงดนตรีรับเชิญจากโตเกียว วง J-T Bridge วงนี้เคยเจอกันแล้วครั้งนึงตอนงานเฉลิมพระเกียรติฯ
งานนี้ไม่มีบทบาทบนเวทีอ่ะนะ.. งานมันใหญ่เลยหันเหมาเป็นกรรมกรแทน ฮ่าๆๆ
อ่อ.. จะว่าไปก็มีกลุ่มคนที่ดูท่าทางเหมือนผู้ใช้แรงงานมาเที่ยวงานทุกวันอ่ะนะ คือเมากันตั้งแต่เที่ยง แล้วก็เต้นแรงเต้นกา น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง.. ดิชั้นขอเฝ้าซุ้มอยู่เงียบๆละกันนะคะ
อ่อ ซุ้มนักเรียนอยู่ข้างซุ้มการบินไทย เลยมีรูปนี้เกิดขึ้น ฮ่าๆๆๆ
งานนี้ยังได้เจอ penfriend ที่ติดต่อกันมานานตั้งแต่สมัย ม.1 อีกครั้ง ไม่เคยเล่าเรื่องเพื่อนคนนี้ให้ฟังในบล็อคเลยเพราะตั้งแต่มาที่นี่ก็ไม่ค่อยได้เจอกัน ทั้งๆที่เขียนจดหมายติดต่อกันมาเป็นเวลานานเป็นสิบปีแล้ว เคยขี้เกียจเขียนแล้วก็หายๆกันไปอยู่เหมือนกันแต่ก็กลับมาติดต่อกันใหม่... เป็นคนญี่ปุ่นที่บังเอิญได้ที่อยู่เค้ามาจากหนังสือพิมพ์ Student Weekly สมัยเด็กๆ เป็นช่วงที่กำลังหัดภาษาอังกฤษ แล้วก็เขียนจดหมายติดต่อกันเรื่อยมา เคยเจอกันครั้งนึ่งตอนที่เรามาทัวร์ญี่ปุ่นตอนปีสอง เค้าไปเที่ยวที่เมืองไทยครั้งนึงตอนเราอยู่ปีสาม และอีกครั้งคืองานอาหารไทยปีที่แล้วนั่นแหละ
ตอนนี้เค้าจะแต่งงานแล้ว และประกอบกับเราก็จะกลับเมืองไทยแล้วเลยมาเจอกันอีกครั้ง
ตอนนี้เราพอพูดภาษาญี่ปุ่นได้บ้าง จากที่ตอนแรกต่างคนต่างคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะเค้าพูกอังกฤษไม่ค่อยได้ ส่วนเราไม่ได้ญี่ปุ่นเลยยยยยยยยย วันนี้เค้าบอกดีใจมากที่สื่อสารกันรู้เรื่องสักที..
....................................................
ขอเข้าเรื่องความบ้าของตัวเองหน่อยนะ...
งานนี้มีศิลปินจากแกรมมี่มาแสดงในงานสี่คน คือ..
พลพล น้ำตาล AF1 (ติ๊ก กัญญารัตน์นี่มาทำรายการของเค้าอ่ะนะ ไม่ได้มาร้องเพลง) แอ็ป และเอ็ม The Star
มาเยี่ยมซุ้มนักเรียนไทยด้วย
ส่วนรูปคอนเสิร์ตนั้น.. ต้องขออภัยหนุ่มๆทุกคน เพราะมีแต่รูปเอ็มล้วนๆ ฮ่าๆๆ แบบว่าไม่ถ่ายคนอื่นเลย นี่ช้านเปนอารายปายยยยยย
แถมวีดีโอให้ด้วย เพลงอย่าร้อนตัว อัลบั้มออกแล้ววันนี้อย่าลืมไปช่วยกันอุดหนุนนะคะ (ช่วยโปรโมทสุดๆ) เดี๋ยวกลับไปเมืองไทยจะไปซื้อเหมือนกัน รอก่อนนะ เหอๆ
ยังไม่จบแค่นั้น...
คือคนมันเป็นบ้าอยู่อ่ะ ต้องเข้าใจเรานิดนึงนะ เหอๆ...
จะบอกว่าตอนแรกก็เฉยๆนะ หน้าเค้าเปลี่ยนด้วยแบบว่าอัลบั้มแรกไม่ได้หน้ายังงี้นี่หว่า เหอๆ... แต่คือแบบเสียงดีมากๆอ่ะ แบบว่าไม่ใช่แฟน The Star เลยไม่ได้รู้จักอะไรมาก่อน ตอนอัลบั้มแรกก็เหมือนว่าเค้าได้ร้องเพลงที่มันไม่เหมาะกับเค้าด้วยแหละมั้ง แต่พอขึ้นมาร้องบนเวทีนะ.. โอ้มายก้อด~ เสียงดีขนาด หลงเสียงไปเลย บ้าไปเลยยยยย
อ่อ.. พอจบคอนเสิร์ตแล้วก็มีการให้ศิลปินมาแจกลายเซ็นให้แฟนๆด้วย ส่วนเราก็ไปนั่งทำบ้าเป็นล่ามโง่ๆให้เค้าอยู่สองวันอ่ะนะ
ก็เลยได้รูปคู่มา... หน้ามันทีเดียวหลังจากฝ่าแดดลมฝนมาตลอดวัน เหอๆ
ก็ไม่ได้คุยอะไรกับเค้ามากมายหรอกนะ บทสนทนาก็ประมาณว่าเค้าพูดว่าอย่างนี้ ชื่อเค้าสะกดยังงี้อะไรอย่างงี้แหละ จริงๆอยากจะพูดมากกว่านี้ แต่เดี๋ยวไปพูดมากๆเค้าจะหาว่าเราบ้า ฮ่าๆ (แต่ก็บ้าจริงๆอ่ะนะ) ก็เลยต้องนั่งเงียบๆปกปิดความบ้าของตัวเองไว้ อีกสองวันจะกลับเมืองไทยแล้ว แต่ก็คงไม่ได้เจออีกแล้วอ่ะนะ ขอตักตวงให้เต็มที่ ถ่ายรูปมาเต็มสตรีมเลย เหอๆ แต่เหมือนเค้าจะเข้าใจว่าเราเป็นเด็ก ODOS หรือเปล่านะ เหอๆ.. คือว่าไม่ได้เป็นเด็ก ODOS อ่ะค่ะ -_-"
ตอนนี้ยังอยู่ในอาการเพ้ออยู่ ขอเวลาปลุกตัวเองให้ตื่นอีกสักสองสามวันนะ เพราะงั้นช่วงนี้ให้คุยอะไรกะเราก็ทำใจนิดนึงว่ามันจะพูดเรื่องเอ็มออกมาโดยไม่รู้ตัว เหอๆ
วันที่สาม... ไม่ได้ไปนั่งเป็นล่ามโง่ๆให้แล้ว เพราะว่าต้องไปขายซีดีแทน รวมถึงต้องรับมือกับเหล่าแฟนเพลงที่มีมาหลายรูปแบบมากเลยทั้งคนที่พยายามเข้าหลังเวที ลุงหื่น ฝรั่งที่พยายามเกาะแกะนักร้อง คุณป้าที่ซื้อของมาแจกนักร้องเพื่อให้เค้าประทับใจ (แกว่าอย่างนั้นน่ะนะ) ฯลฯ คือ คนดีๆก็มีแหละ แต่ส่วนใหญ่จะจำได้แต่อะไรแปลกๆ หึหึ
จบงาน... เหนื่อย แต่ก็สนุก
(เสียงหายไปเลยวันนี้พูดไม่ได้ ความว่าอาจจะเป็นเพื่อนกรี๊ดดดดดดมากเกินไป และตะโกนขายซีดีมากไป...)
..............................................................
หนึ่งปีที่ผ่านมา ขอบคุณพี่ๆสมาคมนักเรียนไทยฯมากค่ะ ถ้าไม่มีพี่ๆโบคงไม่ได้ทำอะไรสนุกๆแบบนี้ ขอบคุณค่ะ
2 Comments:
อืม...แฮ่ๆๆ ขอแนะนำตัวหน่อยนะ...สวัสดีเราออมนะ...เป็นเพื่อนของเพื่อนโบว์(มากกว่าหนึ่ง)นะจ๊ะ...
เอ่อ...เพื่อความชัวร์...นี่คือโบว์เพื่อนพิณ(ดลิน)ใช่ป่าว....คืองี้เรารู้จักกะพี่ใหม่นะก็ได้ตามไปดูรูปที่blogโบว์อ่ะ....แล้วก็แอบไปดูอันเก่าๆด้วยอ่ะ...(ขออภัยนะ)...โอ้ แม่ เจ้า...โลกกลมแม็กซิมั่ม...เราพบเจอรูปเพื่อนเรามากมายในเวปของโบว์อ่ะ...แพน นวพรกะพวกวิศวะ...
อืม...ก็ไม่มีไรหรอกทักทายเฉยๆจ๊ะ....
ปล.เราไปpost commentทิ้งไว้ที่blogพี่ใหม่...เอ่อ...เพิ่งฉลาดว่าแล้วจะรู้ได้ไงว่าโบว์จะย้อยกลับไปอ่านอ่ะ...ก็เลยมาpostไว้ที่นี่นะ...^__^
aumja55@hotmail.com
มาเม้นต์ไม่เกี่ยวกับบล๊อกโบว์... แต่จะมาบอกว่าน้องออมความรู้สึกช้ามากกกกกกกกก คือ.. เค้ารู้กันหมดแล้วอ่ะนะว่าออมเป็นเพื่อนดลิน เจ้าดลินมันมาบอกไว้ตั้งแต่ตอนโบว์มาญี่ปุ่นใหม่ๆแล้ววววว แว้วว แว้ววว แว้วว แว้ววว
Post a Comment
<< Home