12 วัน Homestay Program ที่ Kikonai - Hokkaido (ภาค 1)
สวัสดีจ๊ะ.. ตอนที่พิมพ์อยู่นี่ไม่รู้ว่าจะได้อัพเดทบล็อคเมื่อไหร่
คราวที่แล้วที่อัพเรื่องโตเกียวก็แอบพิมพ์ไว้ก่อนแล้วพอมีโอกาสได้ใช้อินเตอร์เน็ทก็รีบเอาลงเลย
เหอๆๆๆ รับผิดชอบกับบล็อคจัดๆเลยแฮะเรา ต่อไปจะมีใครจ้างเราทำงานอัพบล็อคไหมนะ ฮ่าๆ
คราวที่แล้วทิ้งท้ายไว้ว่าจะพูดเรื่องที่ได้มาโฮมสเตย์ที่ฮอคไกโดช่ายป่าว
โครงการนี้เป็นโครงการของ Hokkaido International Foundation จัดเป็นครั้งที่ 28 แล้ว
จุดประสงค์ก็น่าจะประมาณว่าเปิดโอกาสให้นักเรียนต่างชาติได้เรียนรู้ชีวิตของคนญี่ปุ่น รวมถึงให้คนญี่ปุ่นได้รู้จักต่างชาติมากขึ้น
(แต่นะ เป็น international foundation แท้ๆ แต่เหมือนว่าจะไม่มีใครภูดภาษาอังกฤษได้เลย ไม่เข้าจายยยยยยย)
ไม่พล่ามมากละกัน เพราะว่าไม่งั้นบล็อคเราคงยาวยืดมากๆแน่ๆ แหมก็มาอยู่ตั้ง 12 วัน..
....................................................
วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม..
หลังจากแยกจากมาซาฮิโระแล้ว อย่างที่บอกไว้คราวก่อน ก็เดินไปขึ้นรถบัสที่จอดรออยู่ เพื่อจะเดินทางต่อไปยังท่าเรือ
ระหว่างที่เดินอยู่นั้นก็ได้เพื่อนเลย... รวดเร็วมาก เพื่อนคนนี้เป็นคนฟิลิปปินส์ ชื่อ "Pat" มาจากมหาวิทยาลัยนางาซากิ มาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนหนึ่งปีเหมือนกัน สงสัยจะได้ยินเรากับมาซาฮิโระคุยกันเป็นภาษาอังกฤษเลยเข้ามาทัก
หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตอยู่บนรถบัสอีกประมาณสามชั่วโมงได้ โอ้โหววว อะไรมันจะไกลกันขนาดนั้น ท่าเรือกับตัวเมือง...
แต่นั่นเป็นเพียงแค่เบาะๆเท่านั้นนะ ... เพราะหารู้ไม่ว่าต่อไปจะต้องใช้ชีวิตกับการเดินทางไปจนเบื่อตายไปเลย เหอๆๆ
ไปถึงท่าเรือก็เห็นเรือจอดเทียบท่าอยู่ ชื่อ Sunflower
ระหว่างที่รอเรืออยู่ก็จะเห็นนักเรียนต่างชาติร่วมโครงการกว่าสองร้อยชีวิตนั่งรอชะตากรรมอยู่
พอเข้าไปในเรือแล้วก็ไปดูห้องนอนกัน... มีนางแบบโชว์ห้องนอนเรียงกันเป็นหมูคือแพ็มนั่นเอง
วันนี้ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ มีเล่นเกมอะไรกันเล็กน้อย แต่เรามีส่วนร่วมน้อยมาก แบบว่าปัญญาความรู้ภาษาญี่ปุ่นมีอยู่เพียงกระจุกเล็กๆเท่านั้น ก็ได้แต่ "ไฮ้ๆๆ" กันไปนะคะ ก็ปล่อยให้คนจีนกะเกาหลีเค้าคุยกันไป เหอๆ
อ่อ.. มีเรื่องจะบ่นเล็กน้อย คือตกใจตั้งแต่เห็นรายชื่อผู้ร่วมโครงการแล้วล่ะ แบบว่าเกินครึ่งเป็นจีนและไต้หวัน ซึ่งพูดภาษาจีน ตามมาติดๆด้วยเกาหลีจำนวนหลายสิบ ส่งภาษาท้องถิ่นกันพัลวันไปหมด คนไทยมีอยู่สามหน่อ หายสาบสูญไปหนึ่งหลังจากเห็นหน้าได้แว้บๆ อ่อ .. แต่ยังมีหนุ่มมะกันเชื้อชาติไทยอีกคนที่มาคุยด้วย ประมาณว่าอยากฝึกภาษาไทย ประมาณนั้น...
จบวันแรกแบบงงๆ มึนๆ มึนจริงๆ เรือมันโคลงงงงงงงงงงงงงงงงง
...........................................
วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม
โอยยยยยยยยยยย จะปลุกชั้นกันทำไมตั้งแต่ตีสี่ครึ่งฮ๊า~
คือเมื่อวานนี้มีคนบอกว่าถ้าอยากดูพระอาทิตย์ขึ้นให้ตื่นตอนตีสี่ครึ่ง ไอ้เราไม่ได้อยากดูเท่าไหร่ แต่ในห้องนี่ใช้ชีวิตรวมกับคนอีกหลายสิบชีวิต ตื่นคนนึงตื่นกันหมดทั้งหมู่บ้าน ก็เลยต้องเลยตามเลยตื่นไปด้วย
แต่จะบอกว่าผิดหวัง...
พอออกไปนอกเรือ ไม่เห็นอะไรเลย หมอกลงจัดมากๆ บดบังพระอาทิตย์หมดสิ้น ...
ตื่นมาทำไมเนี่ยช้านนนนนนนน... แล้วก็นอนไม่หลับด้วยนะ ก็ต้องนั่งรอเวลาห้องน้ำเปิดตอนหกโมงเช้า แล้วก็กินข้าวตอนเจ็ดโมงกันไป
หลังจากนั้นก็มี Orientation แล้วก็ถ่ายรูปร่วมกัน บอกว่าจะเอาลงเว็บ เอาลงหรือยังหว่า...
ออย โบว์ ติ้ง แพ็ท และสองสาวมาเลย์ข้างหลังจำชื่อไม่ได้ เหอๆ
มาเทียบท่าเกาะฮอคไกโดเวลาประมาณบ่ายโมงครึ่ง รวมสุทธิใช้ชีวิตบนเรือร่วม 19 ชั่วโมง... และตลอดสิบเก้าชั่วโมงนั้นก็ผะอืดผะอมมาตลอดทาง (แต่ไม่เท่าตอนกลับจากคิวชูนะ ตอนนั้นสุดๆๆๆแล้ว)
อ่อ... วันนี้มีการแข่งขันเบสบอล "โคชิเอ็ง" รอบชิงชนะเลิศด้วย ระหว่างทีมวาเซดะ (โตเกียว) และทีมฮอคไกโด รถทัวร์ที่จะพาพวกเราจากท่าเรือไปยังเมืองซัปโปโรมีจอดพักหนึ่งครั้ง เห็นคนนั่งมุ่งกันหญ่ายยย
อืม แล้วที่ๆจอดพักก็มีของฝากจากฮอคไกโดขายเยอะแยะ
อ่อ เคยเล่าให้ฟังหรือเปล่านะ ที่ญี่ปุ่นนี่พวกขนมต่างๆมักจะมีแบบพิเศษๆ สองอย่างใหญ่ๆ คือ "เวอร์ชั่นฤดูกาล" เช่น คิทแคทซากุระตอนใบไม้ผลิ และ"เวอร์ชั่นท้องถิ่น" เช่น โคลอนชาเขียวที่เกียวโต
ที่เห็นในรูปคือเวอร์ชั่นท้องถิ่น ของฮอคไกโดอ่ะนะ
มาถึง"ซัปโปโร"ตอนเย็นๆ พอเข้าโรงแรมแล้วก็มี free time ออกไปเที่ยวกันตามประสา
ระหว่างทางก็เจอเจ้านี่เข้า... (โปรดสังเกตุราคาไอติมถ้วยนี้...)
และเนื่องจากอาหารขึ้นชื่อของซัปโปโรคือราเม็ง และผลิตภัณฑ์จากฟาร์มเป็นของชื่อดังของฮอคไกโด อาหารเย็นเลยเป็นเจ้านี่..
Butter corn ramen
อ่อ.. พวกอาหารทะเล ข้าวโพด มันฝรั่ง อะไรพวกนี้ ที่นี่ก็ขึ้นชื่อเหมือนกันนะ เดี๋ยวจะได้เห็นอาหารทะเลเร็วๆนี้ อิอิ
ปิดท้ายวันนี้ด้วยภาพยามค่ำคืนของ"สวนสาธารณะ Odori" และ "Terebi Tower"
.........................................
อังคาร 22 สิงหาคม
วันนี้เดี๋ยวจะต้องไปอยู่บ้านโฮมแฟมิลี่แล้ว จึงเป็นวันเดินทางที่ยิ่งใหญ่อีกวันหนึ่ง ยิ่งใหญ่ยังไง เดี๋ยวได้รู้กัน เหอๆ
เช้ามาทางโครงการก็พาไปเที่ยวก่อน .. เป็น"พิพิธภัณฑ์เผ่าไอนุ"
เผ่าไอนุเป็นชนเผ่าพื้นเมืองของฮอคไกโดก่อนที่คนญี่ปุ่นจะเข้ามาตั้งรกราก เหมือนพวกอะบอริจินในออสเตรเลีย และเมารีในนิวซีแลนด์ เพราะฉะนั้นเผ่าไอนุจึงมีวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง รวมถึงมีภาษาเป็นของตัวเองด้วยนะ
ในพิพิธภัณฑ์ยังมีการแสดงพื้นเมืองให้ดูด้วย
จริงๆแล้วมันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บ้านๆมากๆ ไม่มีไรเลย มีบ้านที่ทำเลียนแบบบ้านสมัยก่อน มีคนแต่งตัวชุดไอนุ อะไรยังงี้ แต่ก็นะดีกว่าไม่มีที่ไป ฮ่าๆๆ
หลังจากนั้นอาหารเที่ยงคือนี่จ๊ะ อิอิ
หอยโฮตาเตะใหญ่มากกกกก กุ้งใหญ่มากกกกกกกกกกก ทุกอย่างใหญ่หมด ซี๊ดดดดด~
หลังจากอาหารค่ำก็ได้เวลาเดินทาง...อันยิ่งใหญ่
ที่บอกว่ายิ่งใหญ่ก็เพราะว่า ไม่รู้ไปทำอะไรอีท่าไหน เราถึงได้มาอยู่เป็นเมืองสุดท้ายที่เค้าไปส่งนะ -_-" คือรถบัสหนึ่งคันจะวนคนไปส่งตามที่ต่างๆ กระจายไปตามเมืองต่างๆน่ะแหละ เราจากที่ใกล้ๆ ซึ่งไปถึงตอนบ่ายสองครึ่ง..
ส่วนเรา ไกลสุด ชื่อว่าเมือง "Kikonai".. กว่าจะไปถึงก็สองทุ่มครึ่งแล้ว -_-"
ใช้เวลาอยู่บนรถบัส 6 ชม. -_-"
บรรยากาศนักเรียนต่างชาติเจอโฮสแฟมิลี่ครั้งแรก
อืม แล้วจะบอกว่า ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบใครเลย เพราะคุณพี่ที่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำรถทัวร์ได้พูดมาตลอดทางว่า ทุกๆเมืองที่ไปอยู่ไม่ต้องกลัวน้อยหน้ากันนะ เพราะมันเป็น "ชนบท" ทั้งหมด -_-"
แล้วแต่ละเมืองมันจะมีของดังของเมืองไรงี้ใช่มะ มีครั้งนึงมีคนถามว่าเมืองนี้มีอะไรมั่ง พี่เค้าบอกว่า
"ทะเล แล้วก็ ........................................ชนบท"
เหอๆ
แต่ชนบทญี่ปุ่นมันไม่กันดานเหมือนเมืองไทยนะ หลังจากมีประสบการณ์ออกค่ายพัฒน์อย่างโชกโชนแล้วพูดได้เต็มปากเต็มคำเลย ว่า.. มันไม่ชนบท (ขนาดนั้น)
นี่คือหน้าตาของบ้านที่เราอยู่ บ้าน OHTA มีสมาชิกสามคน คือ โอก้าซัง มาริโกะจัง และน้องทราย (นร.แลกเปลี่ยน AFS..คนไทยอ่ะนะ)
ส่วนนี่ห้องนอน.. คิดว่ามันเป็นห้องเก็บของมาก่อน แล้วก็เอาฟูตงมาวางเฉยๆอ่ะนะ
ปิดท้ายวันนี้ด้วยอาหารเลี้ยงต้อนรับ
....................................................
พุธ 23 สิงหาคม
วันนี้ตอนเช้ามีตารางไปที่ city hall ของเมือง Kikonai โดยจะมี อืม.. เจ้าเมือง (ภาษาไทยมันเรียกว่าไรนะ ภาษาปัจจุบันอ่ะ เหอๆ) เป็นคนมาต้อนรับ
เค้าก็มีการคุยๆด้วยแหละ เราก็ได้รับการสนใจเช่นเคย เนื่องจากเพื่อนอีกสองคนที่มาด้วยเป็นคนจีนและไต้หวัน.. ชื่อเราก็ต้องยาวสุดใจอยู่แล้ว เหอๆๆ
ตอนเที่ยงโอก้าซัง มาริจัง เรา และเพื่อนคนไต้หวัน (แม่เค้ามาฝากให้ไปเที่ยวด้วย) ก็ไปเข้าเมือง"ฮาโกดาเตะ"กัน โอ้พระเจ้า.. ได้เข้าเมือง ขับรถ ชม.กว่าๆเท่านั้นเองงงงงงงง -_-"
มื้อเที่ยงเป็นซูชิเวียนธรรมดา.. แต่ที่เห็นในรูปคือ "ไข่ปู" จ๊ะ อิอิ
หลังจากนั้นก็ขึ้นไปเที่ยวที่บน "Hokodate Yama" ซึ่งบนนี้เป็นที่ๆมีวิวกลางคืนที่สวยที่สุด 1 ใน 3 ของโลกเชียวนะ แล้วทำไมชั้นมาตอนกลางวันหว่า.. แถมหมอกลงจัดมากๆ ไม่เห็นอะไรเลย เหอๆๆ
กับมาริจัง และโอก้าซังบนภูเขาฮาโกดาเตะ
หลังจากนั้นก็ไปเที่ยวที่ The Old British Consulate House ก็นะ.. เป็นธรรมดาของเมืองท่า มันก็ต้องมีวัฒนธรรมตะวันตกมาผสมเสมอๆ มีโบสถ์ บ้านฝรั่งอะไรยังงี้ เหมือนกับโกเบ และนางาซากิที่เคยไป ไม่ได้แวะอะไรมากถึงแม้จะขับรถผ่านหลายที่ ก็ได้แวะที่นี่ที่เดียวแหละ
แล้วก็ไปที่ "Hakodate Factory" ไปดูพวกผลิตภัณฑ์จากแก้วกัน.. อันนี้น่ารักสุดๆ ชอบมากๆ (แต่ไม่ได้ซื้อมาอ่ะนะ)
อืม แล้วก็เจอของประหลาดอีกแล้ว คือที่ฮอคไกโดจะมีพวกสิ่งมีชีวิตต่างๆที่ต่างจากบนเกาะอื่นๆสิ้นเชิง ที่นี่ที่โด่งดังมากคือ"หมี" ทำให้มีผลิตภัณฑ์รูปหมีออกมาขายมากมาย เช่น..
แล้วมันจะขายได้ไหมเนี่ย -_-" ใครจะซื้อเนี่ยถามเจรงๆ
หลังจากนั้นก็มีงานเลี้ยงต้อนรับนักเรียนต่างชาติสามคน อย่างที่บอกว่ามาแบบแขกบ้านแขกเมือง เหอๆ
เรา ทัค จากไต้หวัน และ โยโย จากจีน
อืม.. หอยใหญ่จริงๆ
และเนื้อย่างเจงกีสข่าน
ปิดท้ายด้วยรูปถ่ายกับน้องทราย น้องที่บ้านน่ะ
.................................................
พฤหัสบดี 24 สิงหาคม
ว่าง........................ง
วันนี้ว่างมาก ไม่ได้ไปไหนเลยอยู่บ้านเฉยๆ ใครที่ออนไลน์คงได้เห็นเราเล่นเน็ทเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ในวันนี้นี่เอง
.................................................
ศุกร์ 25 สิงหาคม
วันนี้ไปทำงานค่ะ...
งานอะไรรู้ไหมคะ...
ไปเป็น"ครู" อีกแล้วค่ะ งานนี้ เคยแต่ไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ วันนี้เสร่อมากกกกก ไปสอนเด็กเป็นภาษาญี่ปุ่น o_O" แล้วมันจะรอดไหมเนี่ย..
อืม.. มันก็ไม่รอดจริงๆ
โรงเรียนที่ไปสอนวันนี้ชื่อว่า Tsuruoka Elementary School (鶴岡小学校) มีนักเรียนทั้งหมดประมาณ 50 คน... เด็ก ป.1 มีคนเดียว -_-"
จริงๆก็ไม่ออกแนวสอนเท่าไหร่นะ คือออกแนวไปนั่งคุย แล้วก็ตอบคำถามที่เด็กถามเกี่ยวกับประเทศไทย
อันนั้นนั่นแหละ เป็นปัญหาของเรา เหอๆๆๆๆ ภาษาญี่ปุ่นธรรมดาก็ว่าฟังไม่ค่อยรู้เรื่องแล้วนะ นี่ต้องมาฟังภาษาญี่ปุ่นของเด็ก กร๊าาาาาาาา~ บ้าไปเลย
พอไปถึงโรงเรียน ตอนแรกก็ไม่มีอะไร เพราะว่านั่งรวมๆกัน กับเพื่อนคนจีนและคนไต้หวันอ่ะนะ อะไรเราฟังไม่ค่อยออกก็จะฟังเค้าตอบก่อน แล้วเราค่อยเดาบริบทเอา ฮ่าๆๆๆ
ระหว่างที่นั่งรวมๆกัน มีเด็กๆมาร้องเพลงโรงเรียนต้อนรับด้วย
ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากนั้น เพราะว่าต้องแยกกันแล้ว เราได้ประจำห้องเด็ก ป.5 - ป.6 สวัสดีค่ะ.. ง่อยมาก เข้าใจมั่งไม่เข้าใจมั่ง ส่วนใหญ่ออกอารมณ์มั่วแหลก ฮ่าๆๆๆ แต่ไม่ทำให้ประวัติศาสตร์ และอิมเมจเกี่ยวกับประเทศไทยเสื่อมเสียแน่นอน ไม่ต้องห่วง เหอๆๆๆ
เอ๊ะ.. หรือทำหว่า -_-"
หลังจากนั้นมีการกินข้าวร่วมกัน อาหารเที่ยงวันนี้เป็นข้าวแกงกะหรี่ทะเล ... ฮอคไกโดนี่อาหารทะเลจริงๆอ่ะนะ โอ้ววว อร่อย
หลังจากนั้นก็บอกลาเด็กๆ
เด็กๆน่ารักดีนะ ถึงแม้เราจะฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เหอๆๆ นับจากนี้ไปเหลืออีกสองโรงเรียน คือโรงเรียน ม.ต้น และ ม.ปลาย
ม.ปลาย ไม่น่าห่วงเพราะน้องทรายอยู่มีคนคอยเป็นล่ามให้ (เห็นน้องทรายบอกว่า อ.บอกให้ช่วยพี่โบว์แปลๆด้วย เหอะๆๆ ท่าจะทนไม่ไหวจริงๆ กร๊ากกกกกกก) แต่ ม.ต้นนี่น่าห่วง เด็กมันโตๆแล้ว มันต้องนั่งเงียบๆแน่เลย เหอๆๆๆๆ
ก็ต้องคอยดูกันต่อปายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
.....................................................
To be continue...
6 Comments:
มีเวลามา up ด้วยวุ้ย
spirit สุดยอด
ปล.พวงกุญแจหมีชุดกะลาสีน่ารักดีง่ะ 555
owwww.......pai koukou douyyy haha
คิดถึงตอนที่พี่เคยไปโฮมสเตย์ที่คาโกชิม่าเลย
อารมณ์แบบว่าไม่ต่างกันเลย ไฮ้ๆ ไปตามเรื่อง 55
อยากไปฮอกไกโดมั่ง
ปล. ในที่สุด มิชชั่นฟูจิ ของพี่ ก็คอมพลีทในครั้งที่ 3 นี่เอง อิอิ มันต้องมีฟ้าหลังฝนกันบ้าง 55
กลับมาแล้วเหรอ...
ยาวจัง เดี๋ยวกลับมาอ่านใหม่
อยากไปบ้าง สมัครยังไงคะ
อยากไปบ้างจัง
Post a Comment
<< Home