zz *Bow's Journey Under the RainBow*: Host Family Day

*Bow's Journey Under the RainBow*

And this is a little journey of me...

Wednesday, November 23, 2005

Host Family Day

หวัดดีจ้าทุกคน
ได้ข่าวว่าตอนนี้ที่เมืองไทยอากาศเริ่มเย็นแล้ว
รักษาสุขภาพกันด้วยน้า

ส่วนที่นี่อากาศก็หนาวขึ้นๆทุกวัน
อาการหวัดที่ทำท่าจะหายๆก็ไม่หายซะที เอาเป็นว่ามันไม่แย่ลงก็รู้สึกดีแล้ว
คาดว่าถ้าครบเดือนเมื่อไหร่มันคงหาย ตามเคย -_-"

.....................

วันนี้ไปหาโฮสแฟมิลี่มาแหละ
ตื่นแต่เช้าเลยนะ...แล้วก็ออกจากบ้านแต่เช้า
เพราะกลัวว่าที่ไม่ได้หลงทางมานานมากๆแล้วเนี่ย
มันจะกลับมาหลงอีกครั้ง....เพราะวันนี้ต้องขึ้นรถเมล์ไปอ่ะนะ

นัดสิบโมง ออกจากบ้านแปดโมงครึ่งอ่ะ แล้วไปถึงตั้งแต่เก้าโมงครึ่ง
แต่จะบอกอะไรอย่างนึง...
วันนี้ขึ้นรถเมล์ฟรีแหละ
คือไม่ใช่อะไร...เพราะตอนที่เคยขึ้นที่โตเกียวกะที่นี่อ่ะนะ มันค่อนข้างต่างอ่ะ

ที่โตเกียว ขึ้นประตูหน้าจ่ายตังค์เลย
ที่นี่ ขึ้นประตูหลังจ่ายตังค์ตอนลง
ตอนแรกขึ้นไปก็งงๆอ่ะนะ...เหย จ่ายตังค์ตรงไหนหว่า
พอเริ่มมีคนลงกันก็เริ่มจับทางได้ว่า เอ่อ..จ่ายตังค์ตอนลงหว่ะ
แล้วด้วยความมั่นใจก็หยอดเหรียญลงกล่องนึงไป แล้วก็มีเงินไหลออกมา
ก็กวาดเหรียญมาหมดเลย...ตังค์ทอนแน่ๆ ฮ่าๆ

แต่ที่ไหนได้...ไอ้ตู้ที่หยอดเหรียญห้าร้อยเยนลงไปอ่ะ
มันคือตู้แลกเหรียญอ่ะ แล้วเงินที่กวาดมาหมดเนี่ย มาดูตอนลงจากรถแล้ว
มันคือเหรียญร้อยเยนห้าเหรียญ....อ่าวไม่ได้หักไปเลยนี่หว่า

อันนี้ต้องขอโทษการขนส่งประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก
คือหนูไม่ได้ตั้งใจจะโกงนะคะ...คือหนูไม่รู้อ่ะค่ะ
หวังว่าเงินสองร้อยกว่าเยนที่หนูไม่ได้จ่ายไป คงไม่กระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นนะคะ เหอๆ

วันนี้ต้องขอบคุณคุณเปี๊ยกมาก ที่อุตส่าห์สละเวลาไปเป็นเพื่อน เพราะบ้านโฮสเราอยู่แถวบ้านแกพอดี
เพราะไม่งั้นวันนี้เราอาจจะได้เพียงแค่นั่ง "เงียบ"

วันนี้รู้สึกว่าจะเป็นวันครบรอบแต่งงานของลูกสาวคนเล็กของบ้านนี้
เลยมีบาร์บีคิวปาร์ตี้ แบบว่ามากันทั้งบ้าน
รวมถึงคนข้างบ้านด้วย -_-"

อ่อ ขอแนะนำก่อน
โฮสแฟมิลี่เราชื่อฟูจิตะซัง...
คุณพ่อทำงานที่เมืองไทยมาสิบเก้าปีแล้ว ตอนนี้ก็ยังทำอยู่
ส่วนคุณแม่พูดไทยได้นิดโหน่ย...นิดโหน่ยจริงๆ เหอๆ
บ้านนี้มีลูกสาวสองคน แต่งงานไปแล้วทั้งคู่
ลูกสาวคนโตมีลูกสองคน...ซึ่งพอมีเด็กแล้วทำให้เราแฮปปี้มากๆ เหอๆ

ขอแนะนำเด็กบ้านนี้ก่อนนะ
คนโตชื่อ "อายุจัง" อายุสองขวบ ถึงแม้ตอนที่ถามว่าอายุเท่าไหร่แกจะชูสามนิ้วแล้วบอกว่า "ห้าขวบ" ก็เหอะ -_-"
คนเล็กชื่อ "ชุนโตะคุง" อายุเก้าเดือน น้ำมูกน้ำลายยืดตลอดเวลา แต่เราชอบคนนี้มากนะ อาจจะเป็นเพราะ
พูดไม่เป็นภาษาเหมือนกัน เราเลยใช้เวลาเล่นกับชุนจังซะมาก เป็นของเล่นชิ้นใหม่ของเรา งิงิ

ตอนกลับบ้าน ลูกสาวคนเล็ก ลูกเขย และคุณแม่ก็ขับรถมาส่งเรา
รถเท่ห์มากอ่ะนะ..แต่จริงๆแล้วมันก็รถตู้ธรรมดาแหละ แต่มันเท่ห์ตรงที่
ในรถมีระบบแผนที่อ่ะ พูดได้ด้วย แบบเค้าไม่รู้หรอกบ้านเราอยู่ไหน เค้าให้แผนที่บอก
แถมประตูรถเปิดปิดออโต้ด้วย เหมือนแท็กซี่เลย กรี๊ดๆ

........................................

กลับมาถึงบ้าน...
ก็กลับสู่อาการเดิม

คิดถึงบ้านจัง...

ทำไมน้า...อาหารนี้มันถึงกลับมา ทั้งๆที่รู้สึกว่าช่วงเดือนแรกเราเริ่มสนุกแล้ว
เป็นเพราะอากาศหนาวหรือเปล่านะ..

แล้วยิ่งเป็นอย่างงี้ยิ่งอยากอยู่คนเดียว
ทั้งๆที่มีคนบอกว่า ถ้าเกิดคิดถึงบ้านขึ้นห้ามอยู่คนเดียวเด็ดขาด
แต่ไม่รู้สิ เรารู้สึกว่าพอเราเกิดอาหารคิดถึงบ้านขั้นสูงเมื่อไหร่เราจะอยากอยู่คนเดียวอ่ะ
อยากใช้เวลาอยู่กับตัวเองให้มาก ถึงแม้จะใช้เวลาส่วนใหญ่กับการร้องไห้ แต่มันก็รู้สึกดีขึ้นเมื่อมันผ่านไป

อีกอย่าง...
ไม่อยากไปอยู่กับคนอื่นเท่าไหร่ เพราะไม่อยากจะไปถึงแล้วก็นั่งคอตก หน้าบูด
แถมบางทีต้องแอบออกไปนั่งร้องไห้คนเดียว...มันรู้สึกแย่กว่าอีกอ่ะ

เพิ่งรู้สึกว่ามีความสุขกับการอยู่คนเดียวก็วันนี้นี่เอง...

4 Comments:

Anonymous Anonymous said...

แกกำลังมีความสุขกับการได้อยู่คนเดียว อยู่กับตัวเอง
แบบเราเลย 55

ก็อยู่แล้วมันมีความสุขมากกว่า ไม่อึดอัด นี่เนอะ

7:01 PM  
Anonymous Anonymous said...

สองร้อยกว่าเยน ก็ประมาณหกสิบกว่าบาทเลย
เอากลับมากินข้าวได้เลยนะเนี่ย
ทีหลังก็เล่นมุขนี่สิ หนูม่ายรู้ ขึ้นฟรี เหอๆ

ดูแลสุขภาพนะคับ
เปนห่วงนะ-_-

7:01 PM  
Anonymous Anonymous said...

อ่ะนะ ในฐานะเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเช่นเดียวกัน ขอบอกว่าอาการหนูปกติมากค่า พี่อ่ะร้องไห้อยู่เกือบเดือน พูดไม่รู้เรื่องเหมือนกัน แถมโฮสท์ก้อนะ เข้ากันไม่ค่อยได้ในช่วงแรก แต่พี่ว่าอยู่กับตัวเองมากๆไม่ดีจิงๆนะ โชคดีตอนนั้นยังไม่มี MSN เลยบังคับให้ตูต้องมนุษยสัมพันธ์ดีเลิศ อิอิ ต้องเปิดใจกว้าง และพยายามสนุกกับสิ่งแปลกใหม่ อย่าคิดว่า เมื่อไหร่กูจะพูดเป็น แต่ต้องคิดว่า กูต้องพูดภาษามึงเป็นให้ได้ อย่างน้อยกูจะได้บ่นให้มึงฟังรู้เรื่อง ฮ่าๆๆ แรงบันดาลใจพี่เป็นงั้นจิงๆนะ ก้ออยากด่า อยากบ่นมัน มันก้อฟังไม่รู้เรื่องนี่ กูต้องให้มันรู้เรื่องให้ได้ ก้อนั่นล่ะนะ เอาเป็นว่า สิ่งสำคัญคือ แรงบันดาลใจ + กำลังใจ ไม่ว่าอะไรก้อไม่ยากหรอกจ้า เป็นห่วงน้องสาวเสมอนะจ๊ะ

7:01 PM  
Anonymous Anonymous said...

อากาศเริ่มเย็นจิงๆอ่ะ..แล้วU-Center ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น....
เซ็งจิตสุดๆๆๆๆ -_________-"

ค่าย 5 จบไปแล้ววันที่ 20..ผ่านไปได้ด้วยดี....
ส่วนตอนนี้..จุฬาวิชาการก้อทำคนรอบๆตัวยุ่งเหยิงซะ....
แอบเสียดายที่ไม่ได้เป็นงานรัฐศาสตร์แฟร์....
มันมีแต่ตัวหนังสือ..แอบน่าเบื่อนิดหน่อยอ่ะ....

คิดถึงนะ....

7:02 PM  

Post a Comment

<< Home