เด็กหอ ... หึหึหึหึ
หึหึหึหึหึ
ไม่มีอะไรหรอก พอดีสองสามวันนี้ไม่ได้ออกไปไหน มัวแต่ยุ่งกับการจัดข้าวของ และโยนข้าวของทิ้งไปเป็นจำนวนมาก โอ้ววว ทำไมของมันเยอะอย่างนี้~
อ่อ... แล้วพอดีว่าสัปดาห์หน้าจะย้ายออกจากหอไปเผชิญชะตากรรมในโลกภายนอกแล้ว วันนี้ฤกษ์งามยามดี เนื่องในวาระที่อยู่หอนี้มาจะครบปีแล้ว เลยเอารูปมาให้ดูกันดีกว่าว่าที่เราอยู่มาจะหนึ่งปีเนี่ย มันเป็นอย่างรายยยย
เดินเข้าหอไปพร้อมกันเลยยยยย
ไม่มีอะไรหรอก พอดีสองสามวันนี้ไม่ได้ออกไปไหน มัวแต่ยุ่งกับการจัดข้าวของ และโยนข้าวของทิ้งไปเป็นจำนวนมาก โอ้ววว ทำไมของมันเยอะอย่างนี้~
อ่อ... แล้วพอดีว่าสัปดาห์หน้าจะย้ายออกจากหอไปเผชิญชะตากรรมในโลกภายนอกแล้ว วันนี้ฤกษ์งามยามดี เนื่องในวาระที่อยู่หอนี้มาจะครบปีแล้ว เลยเอารูปมาให้ดูกันดีกว่าว่าที่เราอยู่มาจะหนึ่งปีเนี่ย มันเป็นอย่างรายยยย
เดินเข้าหอไปพร้อมกันเลยยยยย
Osaka University International House สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักให้กับนักศึกษาและนักวิจัยต่างชาติของมหาวิทยาลัยโอซาก้าเป็นระยะเวลาสั้นๆ คือ หอนี้อยู่ได้แค่ปีเดียวนะจ๊ะ ครบปีแล้วก็ต้องออกปายยย (บางคนที่มาอยู่นานๆมักจะขอมาอยู่ที่นี่เป็นปีสุดท้าย เพราะว่าค่าเช่ามันถูกมากกกกกกกกกกก)
โดยหอนี้แบ่งเป็น 3 wings ด้วยกัน คือ A B และ C
Wing A และ B เปิดให้บริการในปี 1979 ส่วนเราอยู่ Wing C ซึ่งเปิดให้บริการในปี 1995
ที่บอกว่าที่พักมันถูกอ่ะ มันถูกจริงๆอ่ะนะ เราซึ่งอยู่ห้องเดี่ยวใน Wing C เนี่ย จ่ายค่าหอพักแค่เดือนละ 5,900 เยนเท่านั้นเองง (ประมาณไม่ถึง 2,000 บาท) ถูกจนบางทีบางเดือนค่าไฟแพงกว่าค่าหออีก อ่ะเหอๆๆๆ
พูดเรื่องหอให้ฟังกันมาแล้ว.. พาไปดูห้องกันดีกว่า
พอมาถึง.. ก็ขึ้นลิฟท์มาชั้น 4 เลยนะคะ
ประตูห้องสีเหลืองสดใส
อืม ห้องนี้ชัวร์ๆ
ออดเสียมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว ไม่มาซ่อมให้ซะที (อันนี้ไม่ได้โม้) เลยต้องแปะป้ายไว้แบบนี้แล
เข้าห้องมาแล้วถอดรองเท้าก่อนนะคะ
อืม ห้องมันก็แค่นี้อ่ะแหละนะ..
มีครัวให้ด้วย เครื่องปรุงกองเต็มไปหมด..
เครื่องดูดควัน และวัตถุดิบในการทำอาหารต่างๆ
เปิดตู้เหนือศีรษะท่าน จะเห็นผงโลโบ้ ของคู่ครัวแม่บ้านทุกท่าน หึหึ
ตู้ข้างใต้นี่ไม่ไหวแล้วอ่ะ ใส่อะไรไปมั่งก็ไม่รู้
เออ มีเครื่องซักผ้าด้วย เห็นมั้ยๆ
ห้องน้ำก็มีแค่นี้แหละนะ..
ตู้เย็น และทีวีที่เปิดอยู่ตลอดเวลา ไม่ชอบอยู่ห้องเงียบๆง่ะง่ะ
โต๊ะเขียนหนังสือสุดรก และ "แมทธิว" คอมพิวเตอร์คู่ชีพ ปัจจุบันโดนล้างสมองไปแล้วสองครั้ง
ชั้นวางหนังสือ ซึ่งมีอย่างอื่นที่ไม่ใช่หนังสืออยู่มากมายทีเดียว..
อันนี้หัวเตียง... จริงๆเค้าห้ามเจาะผนังนะ แต่ชั้นเจาะซะพรุนเลย เหอๆๆ
เดินออกไปที่ระเบียง บางวันเราก็จะเห็นฟ้าสวยๆแบบนี้
อยู่มาจะปีหนึ่งแล้ว จะบอกว่าหอนี้ดีมากๆ มีทุกอย่างให้คุณครบถ้วน คือไม่ต้องออกจากห้องไปทั้งอาทิตย์เลยก็ได้อ่ะนะ
แถมสะดวกสุดๆ นอกจากจะเดินไปโรงเรียนได้ในเวลาห้านาที มีร้านสะดวกซื้ออยู่ข้างๆแล้ว ก็ยังมีรถไฟถึงอีกสองสาย โอ้วว สุดยอดดดดดด
ปิดท้ายบล็อคไร้สาระวันนี้ด้วยของกินที่ทำไปแจกเพื่อนๆ แบบว่ากะทิเหลือโคตรเยอะเลย เลยทำกล้วยบวดชีไปหลอกฝรั่งกินดีกว่า เหอๆ อากาศร้อนๆแบบนี้ กินกล้วยบวดชีร้อนๆ ยิ่งร้อนเข้าไปใหญ่เลย เหอๆๆๆๆ ซาดิสต์ๆ
แล้วก็ได้ซูชิมาเป็นของตอบแทนจาก Joanne จากเนเธอร์แลนด์ เพื่อนห้องข้างๆนั่นเอง
ไปจัดของต่อก่อนล่ะ..
ชะแว้บบบบบบบบบบบบบบ~
9 Comments:
อยู่มาเกือบปีแล้วสิเนอะ คงอาลัยอาวรณ์ ห้องสุดรักน่าดู แต่เชื่อเธอเลยว่าทำได้ทุกอย่าง ห้องของเยอะขนาดนี้ แต่มีอย่างนึงที่พอๆกันคือโต๊ะทำงาน รกเหมือนกัน
พี่นิ
โอ้ น่าหม่ำๆ
ห้องเราพึ่งหายรกเอง ส่งของไปรอบแรกละ เดี๋ยวได้มีกล่องที่สองตามมาติดๆแน่นอน
ฮือๆ อยากได้หอนั้นมั่งอ่ะ ถูก ใกล้
เวลากลับนี่ทำไงวะ ขนกลับหมดป่ะเนี่ย
หึหึหึ จะไปหมดได้ไง..
วันนี้จัดของโยนทิ้งไปเยอะมาก เดินขึ้นลงระหว่างบนห้องกะที่ทิ้งชยะประมาณเจ็ดรอบละ
เหนื่อยๆๆๆๆ
มีเปิดบ้านคนดังด้วยวุ้ย
ห้องเล็ก แต่ทำได้ทุกอย่างจริงๆ
ชอบๆๆ
ไว้จัดห้องใหม่แล้วจะปรึกษานะ
ใช่สบู่ยี่ห้อเดียวกันเลย ไปเผชิญโลกกว้างดี ๆ นะ อย่าดื้อ อย่าซนล่ะ
ต้น
อืมม ของเยอะจริง ๆ อืมมม เยอะจริง ๆ
อืมมม มัน เยอะ จริงๆ นั่นล่ะ
.....
เยอะมากกกกก
จัดของก้อเหนื่อยอย่างนี้แล
ตอนซื้อไม่คิด.. ตอนย้ายเลยเป็นงี้แหล่ะ...
แต่จะบอกว่าย้ายกลับเลยดีกว่าย้ายบ้านนะ เพราะว่าความงกไม่อยากทิ้งของจะยังคงสิงสถิตย์ในตัวท่านอยู่ ต้องกลับๆไปเลย จะได้ตัดใจทิ้งได้ลงง่ายหน่อยเน๊อะ
(ถือเป็นการฟิตร่างกาย แทนคนที่จะต้องไปปีนฟูจิอ่ะนะ อิอิ)
Post a Comment
<< Home