Farewell...my OUSSEP friends
วันนี้เป็นวันส่งท้ายการเรียนในโอซาก้าของจริง..
หลังจากที่โดดเรียนบ่อยมาก และหยุดเรียนด้วยความขี้เกียจไปประมาณสองอาทิตย์ก่อนจะปิดเทอมจริง เหอะๆ
ที่บอกว่าเป็นวันส่งท้ายของจริงก็เพราะว่าวันนี้มีพิธีปิด หรือพูดให้อินเตอร์ก็คือ Closing Ceremony นั่นเอง
วันนี้ตื่นแต่เช้าหลังจากที่ไม่ได้ตื่นเช้าแบบนี้มาหลายอาทิตย์แล้ว (เพราะขี้เกียจ) สาเหตุก็คือวันนี้ต้องถียจักรยานข้ามแคมปัสจาก Toyonaka ไปยัง Suita ถ้าจะพูดให้เข้าใจเป็นภาษาไทยก็คือขี่จักรยานข้ามอำเภอนั่นเองงง
ใครที่ติดตามบล็อคเรามาตลอดหนึ่งปีคงจะจำกันได้ ว่าเหตุการณ์ขี่จักรยานมาราธอนนี้ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อวันแรกๆที่มาถึงโอซาก้า เนื่องจากเช่าจักรยานจากแคมปัสนู้น แล้วบ้านอยู่แคมปัสนี้ จึงต้องขี่กลับมาเป็นธรรมดา ส่วนใครที่ไม่ได้อ่านเชิญคลิ๊กที่นี่
จนถึงวันนี้...
ก็ได้วาระโอกาสอันดี อากาศร้อนเต็มที่ ได้เวลาปั่นจักรยานไปคืนแล้ว
เช้ามาแต่งตัวด้วยเสื้อเขนกุด กางเกงขาสั้น หมวก ทาครีมกันแดด พร้อมกับการปั่นจักรยานสุดโหดเต็มที่ เพื่อนข้างห้องมาเคาะประตู (เพราะว่าเราไม่รู้ทางอ่ะนะต้องให้เค้าไปด้วย)... ปะ ไปกัน
วันนี้ไม่รู้ว่าอุณหภูมิกี่องศา แต่จะบอกว่ามันร้อนนนนมากกกกกก คือรู้สึกได้ว่ามันร้อนกว่าเมืองไทยยังไงก็ไม่รู้ แดดแรงงงมากกก ตอนนี้ที่ไหล่สองข้างมีรอยเสื้อแขนกุดที่ใส่ไปเมื่อเช้า หลังจากปั่นไปได้ครึ่งทางก็บอกเพื่อนว่า...
"เธอๆ เราไม่ไหวแล้ว ขอพักหน่อยได้ไหม.."
ที่บอกว่าไม่ไหวนี่หมายความว่า จะเป็นลม อ่ะนะ.. อันนี้ไม่ได้อธิพจน์แต่อย่างใด แต่จำได้ว่าตอน ป.5 เคยจะเป็นลมอยู่ครั้งนึง เราจะเห็นทุกอย่างมืดๆ แล้วก็บีบๆไงไม่รู้ คือในเวลานั้นมันแบบไม่ไหวแล้วจริงๆเธอ ถ้าปั่นต่อนี่ชั้นมีหวังตกจักรยานโดนรถชนแน่ๆ
พักอยู่ประมาณห้านาที....
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก
ดื่มน้ำเกลือแร่ไปหนึ่งขวด
หลังจากนั้นก็ปั่นต่ออีกประมาณสิบนาที แล้วก็ถึงจนได้
ด้วยสภาพหลังเปียก ก้นเปียก ตัวเปียก เต็มไปด้วยเหงื่อโทรมไปทั่วสรรพางค์กาย (สะกดถูกป่าวหว่า)
หลังจากนั้นก็เดินไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายในห้องน้ำ แล้วเหงื่อมันไม่ยอมหยุดซะที หมดทิชชู่ไปสามห่อได้...
หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว เพื่อนๆทุกคนเห็นสภาพเรา (คือเหงื่อแต่กพลั่กๆกว่าอีกสองคนที่ปั่นมาด้วยกันมากๆอ่ะ) ต่างเข้ามาแสดงความเห็นใจกันใหญ่ แบบ..เหงื่อออกง่ายอยู่แล้วอ่ะนะ ผ่านการปั่นจักรยานขึ้นลงเขามาหนึ่งชั่วโมงนี่มันจาเหลือเร้ออออ
หลังจากนั้นก็เดินกันไปที่สถานที่ที่จะจัดพิธีปิด
ชื่อตึกไรจำไม่ได้ มันเป็นภาษาญี่ปุ่น หึหึ
ป้ายชื่องาน....
หลังจากนั้นก็เดินตามหาที่นั่งตัวเองอยู่ ก็มีเสียงเรียกมาจากข้างหลังว่า "โบจังๆ ทางนี้ๆ"
อ่อ... นึกว่าใคร โอก้าซังนั่นเอง หุหุ
อ่อ มีหน้าตาหนังสือรุ่นมาให้ดูด้วย ...
หน้าปกเป็นรูป Kondo-sensei และ Kitahama-sensei
อาจารย์ทั้งสองคนกล่าวรายงาน..
รับประกาศนียบัตร
หน้าตาเป็นแบบนี้ เย้ๆๆๆ เรียนจบด้วย หุหุ
อ่อ ลืมบอกไป วันนี้ได้เปเปอร์คืนมาวิชานึง หลังจากเห็นคนอื่นได้ 85-90 คะแนนกัน ชั้นจะรอดมั้ยเนี่ย วิชาคณะแพทย์เนี่ย แล้วเขียนไปมั่วมากอ่ะ แบบว่าก็อปปี้จาก wikipedia มาประมาณครึ่งนึง แล้วก็มีชื่อต่อมอะไรก็ไม่รู้เต็มเลย หลังจากนั้นก็เอาไปรวมกับพวกปรัชญาของนักคิดกรีกโบราณ เช่นเปลโต อริสโตเติล (เคยทำในวิชา อ.สรวิศ) เอามาปนกันได้ไงไม่รู้ เรายังงงเองเลย คือกะว่าอาจารย์หมออ่านเป็นงงแน่ๆ
แต่รู้อะไรป่ะ...
ได้ 95 คะแนน!!! เขียนกำกับไว้ด้วยว่า Excellent!!!
โอ้... หรืออาจจะเป็นเพราะเราเลือกทำส่งอาจารย์คนที่พูดภาษาอังกฤษได้ห่วยที่สุดก็ไม่รู้ อ่ะเหอๆๆ
ต่อๆๆๆ เข้าพิธีปิดต่อ..
หลังจากนั้นก็มีการให้ออกไปพูดแสดงความรู้สึกคนละหนึ่งนาที...
เราว่าเราพูดฮาสุดเลยหว่ะ เพราะทุกคนฮากะเรามาตั้งแต่แรกแล้ว คือไม่มีอาจารย์คนไหนสามารถอ่านชื่อ นามสกุลเราได้สักคน ก็แหงล่ะยาวซะขนาดนั้น อืม..
เราว่าเค้าฮาเรื่องที่เราพูดมากที่สุดคือตอนที่เราบอกว่า "เราได้อะไรหลายๆอย่างจากญี่ปุ่น ซึ่งเรารู้สึกดีใจมาก ยกเว้นเรื่องน้ำหนักขึ้น.." เอ้าฮา~
แล้วก็จบด้วยการถ่ายรูปร่วมกัน..
หลังจากนั้นก็มีปาร์ตี้กันเล็กๆน้อยๆ...
แต่อาหารเพียบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
แล้วก็ถ่ายรูปปปปปปปปป
รูปนี้ถ่ายรูปกับบอดี้การ์ดส่วนตัว หุหุ
ถ่ายรูปกอดหมู... เอ้ยหมู่
จบงานอย่างแท้จริง.. ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
ตอนแรกตั้งใจว่าหลังจากพิธีปิด จะไปสนามโคชิเอ็งซะหน่อย พอดีช่วงนี้มีแข่งอยู่พอดี กะว่าจะไปแอบๆถ่าย แต่อากาศแบบนี้... โอ้วววว ม่ายหวายแล้วววว ขอกลับบ้านอาบน้ำด่วนๆ
ตอนเย็นเพื่อนก็มีนัดไปปาร์ตี้กันเล็กน้อยที่ร้านนี้..
The Elephant Cafe ที่อุเมดะ
มันเป็นร้านอาหารเอเชีย แบบฟิวชั่นน่ะ มีอาหารไทยประมาณครึ่งนึงของเมนูทั้งหมด น่าภูมิใจจริงๆ
มีคนสั่งแกงเขียวหวาน ผัดไทย ขนมปังหน้ากุ้ง และอีรอนสั่งข้าวหน้าไก่ไข่ดาว เหอๆ.. ที่ตลกมากคือ ข้าวหน้าไก่ไข่ดาวเวลามาเสิร์ฟอ่ะ มันก็มีไข่ดาวโปะอยู่ช่ายป่ะ แล้วพนักงานก็เอาช้อนใหญ่ๆมาสับๆๆๆๆๆๆ คลุกๆๆๆๆๆๆ เอ่อ... ไม่เข้าใจว่าทำทำไมเหรอ เหอๆๆๆ
ส่วนเราไม่สั่งอาหารไทยแน่นอนอ่ะ เดี๋ยวกลับบ้านก็ได้กิน แถมกินที่นี่คงไม่อร่อยเท่าที่บ้านอยู่ดี เหอะๆๆ ก็เลยได้เจ้านี่มา
นัน..แบบพิซซ่า (ประมาณว่าอาหารอินเดียแบบฟิวชั่น)
อืมมมมมมมม ไวน์
ตักแกงเขียวหวานกันอยู่ หุหุ โอ้ววว ภูมิใจแทนประเทศชาติเหลืออออเกินนนน
และเนื่องจากกินกันเร็วมาก...
เลยไปต่อกันที่
Irish Pub...ก็นะ วันนี้ไม่มีบนคนก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
ก่อนจะจากกัน...
โอว ไม่นึกว่ามันจะเป็นบรรยากาศที่เศร้ามาก คือผู้ชายกะผู้หญิงอยู่คนละหอกันไง เพราะงั้นก็อาจจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว แบบว่ามีเพื่อนคนนึงร้องไห้ ตอนแรกชั้นกะว่าชั้นจะไม่ร้องแล้วน้า~เพราะจริงๆแล้วก็ไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวกะเพื่อนกลุ่มนี้เท่าไหร่ แต่มันไม่สามารถห้ามน้ำตาได้จริงๆ... หลังจากนี้อาจจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว เศร้า..
To OUSSEP guys...
Thank you for a wonderful year..
I cannot live here as happy as this without all of you.
Goodbye.. but just for now 'cuz I don't think we'll be apart forever. I believe that we'll meet again somewhere someday.
'Till we meet again
2 Comments:
อืมมม น่าเศร้าอยู่ คิดดู เรียนด้วยกันมาตั้งปี ก็จะต้องแยกย้ายกันแล้วว แถมไม่รู้จะได้ เจอกันตอนไหนอีก เอ้อ เศร้า
ว่าแต่ มันร้อน จริง ๆ ล่ะ
ตอนนั้นที่พี่เรียนแลกเปลี่ยน ไม่ค่อยเศร้าเลยว่ะ
เพราะตอนท้ายๆ ทุกคนแยกย้ายไปทำแล็บกันหมด
ไม่ว่างกันเลย เหอๆ
ยินดีด้วยคร้าบบ
Post a Comment
<< Home