zz *Bow's Journey Under the RainBow*: ครอบครัว...

*Bow's Journey Under the RainBow*

And this is a little journey of me...

Tuesday, December 13, 2005

ครอบครัว...

ขอโทษนะ...
ไม่ได้มาเขียนตั้งอาทิตย์กว่า...
แต่ก็ไม่ได้ไปไหนหรอก
พอดีว่าตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมาจนถึงเมื่อวานนี้
พ่อ แม่ และพี่เรามาเยี่ยม เราก็เลยไปนอนที่โรงแรมกับเค้าด้วย

วันนี้จะมาเล่าเรื่องที่ไปเที่ยวกับครอบครัวเรามา

วันพฤหัส...พอมาถึงเราก็ออกไปรับที่สนามบินแถวบ้าน
แล้วก็พากันไปที่โรงแรม กลับมาที่หอเราเก็บของๆ
ตอนบ่ายเราก็ออกไปพรีเซนท์รายงานเลยบอกให้เค้าไปเดินอุเมดะกันก่อน
แล้วก็นัดเจอกันตอนสี่โมงครึ่ง โดยเราโดดคาบบ่ายคาบที่สี่ออกมาก่อน
วันแรก...ก็จบลงที่อุเมดะ เราก็กลับมานอนที่หอก่อนเพราะว่าเช้าวันต่อมาจะออกไปเรียน

วันศุกร์...
หลังจากเรียนคาบแรกเสร็จก็โดดคาบที่สองออกมา
นัดเจอกับทุกคนไว้ที่อุเมดะ...แล้วก็ไปกินข้าวเที่ยง
กินเสร็จก็เดินทางไปยังปราสาทฮิเมจิ...อีกแล้ววว
(ไม่มีรูปให้ดู...เพราะเคยเอามาลงให้ดูแล้วหนิว่ามันเป็นไง)

เสร็จจากปราสาทฮิเมจิแล้วก็นั่งรถไฟต่อมาลงที่โกเบ...
ช่วงนี้ของทุกปี ที่โกเบจะมีการประดับประดาไฟเพื่อเป็นที่ระลึก
ให้กับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบเมื่อปี 1995
ชื่องานว่า Luminalia
จะบอกว่า...ไม่เสียแรง และไม่เสียดายค่ารถไฟเลยที่เดินทางมาตั้งไกล
เพื่อมาดูแค่ไฟ...แค่มันไม่ใช่แค่ไฟอ่ะนะ มันแบบว่า แอบสวยและตื่นตาตื่นใจมาก
จบจากโกเบ เราก็กลับไปเอาเสื้อผ้าที่หอกับปะป๊าแล้วก็ขนของมานอนที่โรงแรม











วันเสาร์....
ตื่นสายไปหน่อย เลยโดนหลายคนบ่น
วันนี้ตอนแรกยังไม่มีโปรแกรมจะไปไหน เพราะเมื่อวานกลับมาก็ดึกแล้ว ตันๆ
สุดท้าย ไปๆมาๆ...เพราะว่าโอซาก้าก็ไม่ค่อยมีอะไรให้เที่ยวเท่าไหร่
แล้วถึงแม้ว่าจะไปเกียวโตที่มีแต่วัด วัด และวัดมาหลายครั้งครั้งแล้ว
แต่ในคันไซนี่ก็คงไม่มีอะไรให้เที่ยวนอกจากเกียวโตแล้วล่ะ...
สุดท้ายก็เลยไปเกียวโต...

มื้อเที่ยงจบลงที่ชาบูชาบูสุดแพงและไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่
แล้วก็ไปเที่ยวที่ปราสาทนิโจ เดินไปเดินมาที่ปราสาทประมาณสามสี่ชั่วโมง
เรารู้สึกว่าเราชอบปราสาททื่เป็นที่พักแบบนี้มากกว่าปราสาทเพื่อปกป้องบ้านเมือง
อย่างปราสาทฮิเมจิหรือปราสาทโอซาก้าเยอะอ่ะ อย่างน้อยมันก็มีอะไรให้ชื่นชมในความงามบ้าง











เสร็จแล้วตอนแรกก็ไม่รู้จะทำอะไรแล้วเพราะพวกวัดต่างๆหน้าหนาวมันก็พากันปิดตั้งแต่สี่โมง
เลยกะจะไปช็อปปิ้งอ่ะนะ แต่พอลงไปในสถานีรถไฟใต้ดินกลับเจอโปสเตอร์ใบหนึ่ง
ซึ่งบอกว่ามีการประดับไฟที่สาวนพฤกษชาติเกียวโต เลยไม่รอช้ารีบเดินทางไป เพราะเริ่มตอนห้าโมงครึ่ง
พอไปถึง...ก็ไม่ได้เอะใจนะว่าทำไมสวนมันปิด ก็คิดไปว่ามันยังไม่ห้าโมงครึ่งคงยังไม่เปิด
เลยไปกินอาหารอิตาเลี่ยนแถวนั้นกัน....
กินเสร็จหกโมงเย็นออกมา..อ่าวทำไมสวนยังปิดอยู่ ก็เลยไปมั่วๆอ่านป้ายคันจิอยู่พักนึง
ก็ได้ความว่า (รู้เรื่องด้วยนะ) ซึ่งบอกว่าให้ไปเข้าอีกประตูนึงโดยต้องเดินอ้อมสวนไป
ในแผนที่ก็คิดว่ามันจะไม่ไกล....
ที่ไหนได้...เดินร่วมห้ากิโลฯได้!!! ไกลมากกกกกก มีข้ามแม่น้ำไรงี้ด้วยนะ
แต่ดีนะ...พอมาถึงมันมีอะไรให้ดู ถึงแม้จะไม่สวยเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เสียแรงเปล่า
เข้าไปดูไฟ...และพวกพืชพันธุ์ธรรมชาติต่างๆ เสร็จแล้วก็เรียกแท็กซี่กลับไปสถานี
กะว่าจะมาช็อปในตัวเมืองเกียวโตก่อน แต่ร้านรวงต่างๆก็รีบปิดหนีเรากันหมดแล้ว เฮ้อ~~


วันอาทิตย์...
วันนี้มีนัดกับ Host Family เรา ตอนเช้าเลยรีบออกจากโรงแรมไปหาซื้อเค้ก
พอซื้อเสร็จก็กลับมาที่หอเรา แล้วเค้าก็มารับ...
วันนี้พูดกันรู้เรื่องขึ้น เพราะเค้าต้องพยายามพูดให้ครอบครัวเรารู้เรื่องด้วยไง
เค้าเลยพูดภาษาไทยเยอะหน่อย เหอๆ...
ไปถึงที่บ้าน...เค้าก็จัดอาหารอย่างดี ชาอย่างดี ไวน์อย่างดีมาต้อนรับ
แถมชวนเพื่อนที่เป็นอาจารย์ใส่ชุดกิโมโนมาด้วย เพื่อจะให้เรากับแม่เรายืมชุดถ่ายรูป
อาราย...จะประเสริฐขนาดนี้

หลังจากกินเสร็จก็ใส่ชุดกิโมโนถ่ายรูปกัน
ก็เหมือนคราวที่แล้วอ่ะ...ใส่นานมากกกกก
แต่คราวที่แล้วที่เราใส่ที่หอจำได้เปล่า อันนั้นเค้าให้ชุดแบบเป็นปลายเสื้อสั้น
ซึ่งเป็นชุดของผู้หญิงแต่งงานแล้วมาใส่
ส่วนคราวนี้เค้าให้ชุดของลูกสาวเค้าให้เราใส่...เป็นชุดปลายแขนเสื้อยาวเกือบลากพื้น
สำหรับผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงาน...และใส่นานกว่าอีกชุดนึงอีก

หลังจากนั้นก็ถ่ายรูปๆๆๆๆ....
แล้วก็ออกไปเดินอุเมดะกันอีก...เดินจนหมดวันแล้วก็กลับโรงแรม

คืนวันนี้เศร้า...อย่างสุดซึ่ง
ไม่อยากให้เค้ากลับไปกันเลย
ทำไมว้า...ช่วงเวลาแห่งความสุขมันผ่านไปเร็วแบบนี้
อยากจะอยู่ด้วยกันพร้อมหน้ากันแบบนี้อีก...
อยากกลับบ้าน

เช้าวันจันทร์....ถึงเวลาที่ต้องจากกันแล้ว
เราไปส่งทุกคนตรงทางขึ้นรถลิมูซีนบัส...
ไม่อยากให้กลับไปกันเลย..อยากอยู่ด้วยกันนานๆกว่านี้

หลังจากวินาทีนี้เราต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว
เราคงไม่ได้มีความสุขแบบนี้อีก...คิดแบบนี้แล้วมันก็อดเศร้าไม่ได้

จะบอกว่า...
นาทีแรกที่เห็นทุกคนมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งเราแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
คิ ดถึงมาก....
ความเหงาทั้งหมด ความเศร้า เบื่อ ทุกอย่าง หายไปหมด
เมื่อครอบครัวมาอยู่ร่วมกัน....

แต่พอเวลาต้องจากกันมาถึง...ก็ห้ามน้ำตาไว้ไม่อยู่อีกเช่นกัน
ทั้งๆที่รู้ว่าการจากกันครั้งนี้มันเป็นการจากกันที่ไม่นาน
เพราะเดือนมีนาฯเราก็จะกลับไป...

แต่มันก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนี้เลย

อยากกลับบ้าน....

คิดถึงบ้าน...

8 Comments:

Anonymous Anonymous said...

อ่า...ใจเยนๆ -- ---"

7:11 PM  
Anonymous Anonymous said...

หาอะไรทำอ่ะ อย่าอยู่ว่างๆ
ตอนนี้เราหายคิดถึงบ้านเลย เจอรายงาน พรีเซนต์ ตู้มๆมาก

7:11 PM  
Anonymous Anonymous said...

คิดถึงแกนะ
ไว้กลับมา แล้วไปเที่ยวด้วยกัน

7:12 PM  
Anonymous Anonymous said...

อดทนนะคับ
อีกแปปเดียว สู้ๆ
กลับมาอีกทีก็หายคิดถึงกันเลย

Take care
เปนห่วงนะ -_-

7:12 PM  
Anonymous Anonymous said...

คิดถึง..ก้อได้เจอกันไปแล้วไง..เก็บแรงไว้สู้ต่อไปดีกว่า..สู้ๆ

พี่โบ..ที่นี่ สยามพารากอนเปิดแล้วอ่ะ
หนูดีใจมากมาย ฮี่ๆ..ไว้กลับมาก้อไปเดินล่ะ ใหญ่โตๆ

แต่ตอนนี้ เที่ยวที่นู่นให้คุ้มก่อนจะกลับมาเบื่อที่นี่ล่ะ :)

7:12 PM  
Anonymous Anonymous said...

หา!!!! พี่โบว์......เป็นน้องสาวพี่นก 81 เหรอเนี่ย เพิ่งรู้เมื่อเห็นภาพ...

7:12 PM  
Anonymous Anonymous said...

สู้ต่อไป สู้สู้

7:12 PM  
Anonymous Anonymous said...

อยากใส่ชุดแบบนี้บ้างง่ะ
เดี๋ยวก้อได้เจอกานแร้ววววว

7:13 PM  

Post a Comment

<< Home