zz *Bow's Journey Under the RainBow*: เมืองหนัง..และวัดทอง

*Bow's Journey Under the RainBow*

And this is a little journey of me...

Monday, February 20, 2006

เมืองหนัง..และวัดทอง

เที่ยวกันไม่หยุดเลยค่ะคุณผู้ชม
เที่ยวแบบไม่มีวันพักผ่อน

และเนื่องจากนอนดึกตื่นสาย (น้อยหน่อย) ทุกวัน
ทำให้เริ่มจะตาปรือๆในช่วงหัวค่ำแล้ว
วันนี้เลยเบี้ยวพี่ใหม่ และนอนอยู่บ้าน (พี่ใหม่) หนึ่งวัน

วันนี้..
จะเอาเรื่องที่ไปเที่ยวเมื่อวานมาเล่าให้ฟัง

พอดีว่านัดกับพี่จุ๊บไวนานนนนมากแล้ว
ว่าจะไปเที่ยวที่เมืองหนัง (เอกะมูระ) ที่เกียวโต
(เมืองหนัง..คือเอาไว้ถ่ายหนังน่ะนะ)
เมื่อวาระและโอกาสอันดีมาถึง
เราก็มาอยู่ที่เกียวโตพอดีซะงั้น
ก็เลยได้ฤกษ์ไปเที่ยวเมืองหนังกันแล้ว เย้ๆๆ

ตอนเช้าก่อนไปทุลักทุเลเล็กน้อย
เนื่องจากต้องขึ้นรถเมล์ไปเอง
ตอนที่ต้องเปลี่ยนรถเมล์ก็แอบหาป้ายไม่เจอเล็กน้อย เหอๆ

วิ่งวนๆอยู่เกือบยี่สิบนาที
แต่เดชะบุญ...
รถเมล์คันที่จะขึ้นวิ่งมาพอดี
ทำให้เกิดการวิ่งแข่งกับรถเมล์เกิดขึ้น
แต่ในที่สุดก็สามารถขึ้นรถได้ตรงตามเวลาที่วางไว้

ไปถึงที่เมืองหนัง รอพี่ๆเล็กน้อย
พอมาพร้อมหน้าก็เข้าไปในเมืองหนังเลย เย้!

สมาชิกวันนี้มาจากโฮซาก้าล้วนๆ คือ พี่จุ๊บ พี่แนน และพี่อาร์ท

ตอนแรกก็คิดว่ามันจะเดินพอไหมเนี่ย
เพราะดูแผนที่เมืองมันใหญ่มากกก
แล้วมีเวลาเดินตั้งแต่บ่ายโมงถึงสี่โมง สามชั่วโมงเอง..

แต่พอเดินเข้าไปจริงๆ...
เอ่อ... มันเล็กมากจอร์จ!!
เดินยี่สิบนาทีก็ทั่วแล้วง่ะ

อ่อ..ถึงแม้ว่ามันจะเล็ก แต่เราก็เก็ยภาพบรรยากาศมาให้ชมเน้ออ~

บ้านนินจา ข้างหลังมีปาดาวกระจาย
เหมือนปาเป้าตามงานวัดแหละ แต่เปลี่ยนเป็นดาวกระจายแทน เหอๆๆ


มีซามูไรสู้กันกลางถนนซะด้วย
(จะบอกว่าคนเสื้อฟ้าหล่อมากกกก)


บรรยากาศเมือง
ดูโบราณดีเน๊อะ..ที่เห็นละครญี่ปุ่นฉากเก่าๆก็ถ่ายที่นี่อ่ะแหละ


กับพี่แนน..และสาวชาวบ้านที่เดินผ่านมา


เอ่อ...อะไรหว่า เหอๆๆๆ ดีใจขาเล็ก ยิบปี้!~


กับคุณซามูไรที่เดินผ่านมา..

สรุปแล้ว เดินไปเดินมา บวกดูโชว์ที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่แล้ว
เบ็ดเสร็จเวลาสองชั่วโมงกว่า

มีแวะเข้าบ้านผีสิงเสียตังค์เพิ่มอีก 500 เยนด้วยนะ
ก็หนุกดีอ่ะ...น่ากลัวว่าบ้านผีสิงห์ dream world เยอะเลย เหอๆ

ก็เลยคุยกันว่า...
อุตส่าห์ถ่อมาทั้งที...
แถมยังมีเวลาเหลือมากมาย ฟ้าก็ยังสว่าง
เรากับพี่จุ๊บ และพี่อาร์ทก็เลยไปวัดทองกัน ส่วนพี่แทนของตัวกลับบ้าน

คินคาคุจิ (金閣寺) หรือวัดทองที่เรียกเมื่อกี้นี้อ่ะแหละ
ถูกสร้างขึ้นในปี 1397 เพื่อเป็นที่พักของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิสึ
ภายหลังลูกชายของโชกุนก็ได้เปลี่ยนสิ่งก่อสร้างนี้ให้เป็นวัดของนิกายเซ็น

วัดนี้ถูกเรียกว่าวัดทองก็เพราะว่า
ทั่วทั้งตัวอาคาร ยกเว้นที่ชั้นล่างสุดนั้นปกคลุมด้วยทองแท้โดยทั้งสิ้น
และบนยอดของตัวอาคารยังมีสัญลักษณ์สำคัญเป็นรูปนกฟีนิกซ์อีกด้วย


กับพี่จุ๊บที่ทางเดินเข้าวัด


ถึงแล้วจ้า..วัดทอง

ขอได้รับความขอบคุณจากพี่อาร์ทสำหรับภาพสวยๆนะคะ
จริงๆแล้วพี่จุ๊บบอกว่ามาวัดนี้ทีไรต้องเจอทัวร์คนไทยลงทุกที
แต่สงสัยวันนี้มันจะเย็นแล้วเลยไม่เจอเลย

แต่เจอคนไทยนะ..ตอนเดินที่เมืองหนังน่ะ
เป็นผู้หญิงไทยที่แต่งงานกับคนอเมริกัน
มาเที่ยวจากบอสตัน...

ตลกดีเดินเข้ามาคุย..เพราะเราเม้าท์กันดัง เหอๆๆๆ

ปิดท้ายรูปวันนี้ด้วยรูปที่ติดไว้คราวก่อน ฮ่าๆๆๆ
ขอเชิญชมรูปไมโกะ...หมู่ ฮ่าๆๆๆๆ
(แทนแทนแทนแทนแทนแธ่น แธ่นแทนแท๊นนนนนน)
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

ใครเป็นใครดูกันเอาเอง..ไม่มีคำบรรยาย ฮ่าๆๆๆ
ส่วนใครอยากดูรูปมากกว่านี้ เชิญคลิ๊กไปชมที่บล็อคพี่ใหม่
มีลิงค์อยู่ทางซ้ายมือของท่าน

กร๊ากกกกกๆๆๆๆ

แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า
ใครที่ยังตามอ่านไม่หมด เชิญกลับไปย้อนอ่านกันซะนะ
ตอนนี้ยังไม่มีโปรแกรมอัพเดทในวันต่อไป หุหุ

3 Comments:

Anonymous Anonymous said...

เมืองหนังบรรยากาศดีนะเนี่ย ต้องไปมั่ง
วัดทองสวยมากเลย อยากไปแกะทองเล่นจัง... - -"
ไมโกะหมู่ ว้าววว....

(........)

take care
เปนห่วงนะ -_-

7:08 PM  
Anonymous Anonymous said...

เอ่อ...อะไรหว่า เหอๆๆๆ ดีใจขาเล็ก ยิบปี้!~

5:09 PM  
Anonymous Anonymous said...

พี่โบ..ดูรูปหน้าขาวแล้ว(แถมย้อนหลังกลับอีกด้วย)
อืมม หนูว่าปกติดีกว่านะ..ลองครั้งเดียวก้อน่าจะพอละ ฮ่าๆๆ

แล้วพี่โบก้อขาเล็กอยู่แล้วเหอะ(อย่างน้อยก้อเล็กกว่าหนู ;P )
เที่ยวสนุกสนานจิ้งงงง..เรากำลังใกล้สอบ ฮืออออ....

5:09 PM  

Post a Comment

<< Home