zz *Bow's Journey Under the RainBow*: Nagoya - Gifu ประสบการณ์การเดินทางครั้งใหม่

*Bow's Journey Under the RainBow*

And this is a little journey of me...

Sunday, May 07, 2006

Nagoya - Gifu ประสบการณ์การเดินทางครั้งใหม่

หวัดดีจ้า..
เพิ่งกลับมาจากไปเที่ยวที่กิฟุมาเมื่อวานนี้
แล้วไม่อยากจะดองบล็อคเพราะเดี๋ยวจะขี้เกียจ
ก็เลยมาอัพเอาวันนี้เลย

(วันศุกร์มี quiz ยังไม่ได้อ่านหนังสือเลย หุหุ)

อย่างที่บอกไว้หลายวันแล้วว่าจะไปเที่ยวที่นาโกย่า - กิฟุ
แต่การเที่ยวครั้งนี้แทบจะไม่มีแผนอะไรตายตัวแน่นอนเลย
อาศัยความดวงดีของเราและพี่จิ๋ว (ซึ่งดวงดีอย่างไม่น่าเชื่อ!!!)
ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ได้จองอะไรไว้ก่อนเลย แต่ก็สามารถไปเที่ยวได้ทุกที่ที่อยากไป
และได้ทำทุกอย่างที่อยากทำ

อ่อ..เป็นการเดินทางที่เปลี่ยนรถไฟมากที่สุดเท่าที่เคยทำมาด้วยนะ ฮ่าๆๆ

ไม่ขอเกริ่นมาเดี๋ยวจะยาว
เพราะฉะนั้นขอเริ่มบันทึกการเดินทาง ณ บัดนี้....

วันพฤหัสฯที่ 4 พฤษภาคม
ตื่นหกโมงเช้า อาบน้ำแต่งตัวแล้วก็หอบสัมพาระออกจากบ้านตอนเจ็ดโมงครึ่ง
ตอนแรกแอบงงเล็กน้อยเพราะไม่เคยมาเส้นทางนี้มาก่อน

เริ่มจากขึ้น Osaka Monorail จากสถานี Shibahara ไปลงที่สถานี Minami-Ibaraki
แล้วก็เปลี่ยนไปขึ้น Hankyu จาก Minami-Ibaraki ไปลงที่ Takatshuki-shi
พอมาถึงตอนนี้เริ่มงง เพราะอ่านในเว็บมาเค้าบอกว่าจาก Hankyu เดินไป JR เนี่ยใช้เวลาแปดนาที
(ปรกติมันจะเดินไปง่ายๆมีป้ายบอกชัดเจน) แต่ตอนนี้งงค่ะ เดินไปตามแผนที่
เอ๊ะ..ทำไมมันหาทางเข้าไม่เจอ เดินตามป้ายตลอดนะ แต่มันเดินขึ้นๆลงๆตลอด
ดูแผนที่อีกที.. เอ๊ะมันก็ตึกข้างหน้านี่หว่าที่เป็นสถานี แล้วทำไมมันไม่มีทางเข้า!!!

เดินล่กๆๆๆอยู่ประมาณสิบนาที ดีนะมาก่อนไม่งั้นตกรถไฟรอบต่อไปแน่ๆ และในที่สุดก็หาทางเข้าเจอ
นัดเจอกับพี่จิ๋วที่สถานที JR Takatsuki นี้แล..

เก้าโมงครึ่งรถไฟก็ออกจาก Takatsuki
พอถึงตอนนี้ก็เปลี่ยนรถไฟอีก 1 รอบ คือที่สถานี Maibara
(ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าสถานีนี้อยู่จังหวัดอะไร??)

และก็ไปลงที่สถานี Nagoya ก่อนเที่ยงแป๊บเดียว
รวมเวลาเดินทางตั้งแต่ออกจากบ้านจนถึงนาโกย่าเป็นเวลาทั้งสินประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง!!!

ยังไม่จบๆ..
พอถึงนาโกย่าแล้วมันยังไม่ถึงที่ที่จะไปน่ะ
ต้องนั่งรถไฟใต้ดินต่อไปที่สถานี Sakae อีก
เพื่อจะไปพบกับสิ่งที่เห็นในรูปข้างบน นั่นก็คือ Oasis 21

อันนี้พี่จิ๋วอยากมาดูมาก เพราะมันเป็นสิ่งก่อสร้างที่ครอบลานกว้างตรงกลางไว้
แล้วที่เห็นอยู่ข้างบนนั่นเป็นสระน้ำขนาดใหญ่นะ จากข้างล่างมองขึ้นไปจะเห็นคนข้างบนเดินอยู่
จากข้างบนก็จะเห็นคนเดินอยู่ เจ๋งมากอ่ะ..

นี่ขึ้นมาอยู่ข้างบนแล้ว ถ่ายรูปกับ Terebi Tower
ท่าทางจะเป็นสัญลักษณ์ของนาโกย่าที่หนึ่งล่ะมั้ง เหอๆ

พอถึงตอนนี้...จะเล่าถึงความดวงดีให้ฟัง
เนื่องจากอยากไปเที่ยวสถานที่สำคัญของจังหวัดกิฟุทั้งสองที่
แต่ว่าทั้งสองที่ใช้เวลาเดินทางจากกันนานมากๆ ทำให้คิดว่าคืนวันพรุ่งนี้ต้องไปค้างที่โรงแรม
ค้างที่บ้านนาโฮโกะคงไม่ทันเดินทางแหงๆ ก็เลยโทรจองรถบัสและที่พักกันเดี๋ยวนั้นเลย!!!
แล้สจะบอกว่าดวงดีขนาดไหน ตรงที่มันมีที่ว่างพอดีทั้งรถบัสและที่พัก!!!
นี่ช่วง golden week นะเนี่ย ฮ่าๆๆ

หลังจากเดินอยู่บนน้ำ ถ่ายรูปๆอยู่จนสะใจก็เดินทางต่อไปยัง ปราสาทนาโกย่า
จริงๆไม่ได้ตั้งใจว่าอยากไปดูเลยนะ ก็เพราะว่ามันก็ปราสาทหนึ่งอ่ะ
หน้าตาเหมือนๆกันหมดทุกปราสาทแหละ แต่ว่าไหนๆก็มาแล้ว อีกอย่างไม่มีอะไรทำเท่าไหร่
ก็เลยนั่งรถไฟใต้ดินไปโผล่หน้าปราสาทนาโกย่า
และจากสถานีไม่ต้องเดินไกลมากเหมือนไปปราสาทโอซาก้า เหอๆๆ

วันนี้อากาศดีมากนะ อาจจะร้อนๆตอนเที่ยงไปซะหน่อย
แต่ก็เป็นอากาศที่เหมาะกับการเดินเที่ยวดีจริงๆ
และดูเหมือนว่าทุกคนจะคิดยังงั้น...
ทำให้ดูจำนวนคนที่ต่อแถวเข้าไปดูในปราสาทนาโกย่ามันยาวเป็นกิโลฯเลย!!!

เรากับพี่จิ๋วก็เลยคิดว่า เอิ่ม..อย่าเข้าเลยขี้เกียจต่อแถว
แล้วก็กำลังคิดว่าจะเดินกลับไปที่จุดเดิมที่เรามาถึงตอนแรก
บังเอิญเดินออกมาเจอเจ้านี่เข้า..
เป็นรถถีบพลังมนุษย์ เค้าบอกว่ารถคันนี้ได้แสดงที่งาน Expo ที่ Aichi เมื่อปีที่แล้วด้วยนะ

เลยขอขึ้นไปนั่งซะหน่อย...
ระหว่างที่เค้าถีบไปนี่ก็แอบสงสารเค้านะ เรพาะเค้าต้องรับน้ำหนักคนสองคน
โดยเฉพาะเรา!! (พี่จิ๋วไม่หนักเท่าไหร่หรอกนะ)
แต่พอเห็นกล้ามเนื้อขาเค้าแล้วก็ เอ่อ..ไม่เปนไรหรอก

หลังจากนั่งรถถีบแล้วก็เดินต่อไปที่จุดเริ่มต้น
พอห้าโมงเย็นนาโฮโกะก็โทรมา แล้วก็นัดเจอกัน
หลังจากเจอนาโฮโกะกับคุณแม่แล้ว ก็นั่งรถบัสต่อไปถึงบ้านนาโฮโกะ ที่จังหวัด Gifu
เอาของวาง ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ออกไปกินซูชิกันต่อเลยย

อ่อ..เจอน้องชายนาโฮโกะด้วยนะ ใครที่เคยเจอน้องสามนาโฮโกะเมื่อเดือนมีนาคมที่แล้ว
น้องชายคนนี้เป็นฝาแฝดกันน่ะ แต่ไม่ถ่ายรูปมานะ เดี๋ยวเด็กมันเขิน ฮ่าๆๆ

หลังจากกินเสร็จก็ไปออนเซ็นกัน
โดยไม่ได้ตั้งใจมาก่อน หุหุ

ออนเซ็นที่นี่สวยมาก ใหม่มากกกกก
เป็นออนเซ็นที่สวยที่สุดเท่าที่เคยไปแช่มาเลย
แต่คนก็เยอะด้วยเช่นกัน ก็อย่างว่าแหละนะ มันช่วง golden week

เอ๊ะ...คิดอะไรกันอยู่น่ะ
ข้างในที่อาบน้ำมันถ่ายไม่ได้เฟร้ยยย
อันนี้เป็นรูปบรรยากาศรอบๆออนเซ็น เอามาให้ดูว่ามันสวยจริงๆเฉยๆ หุหุ

หลังจากอาบน้ำจนสบายแล้วก็กลับไปที่บ้านนาโฮโกะ
นอนพักผ่อนแล้วก็เตรียมตัวเดินทางในวันรุ่งขึ้นแต่เช้าตรู่

........................................................

วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม
ตื่นหกโมงเช้า ล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็ออกจากบ้านนาโฮโกะ
โดยที่คุณแม่ขับรถไฟส่งที่สถานี JR Mino-Ota
บอกลาแล้วก็ออกเดินทางมาราธอนอีกครั้ง

ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงครึ่งบนรถไฟ (หวานเย็น) เพื่อจะเดินทางไปยัง Takayama

พอไปถึงทากายาม่าแล้ว ... ก็เดินทางต่อเลย
เรายังไม่เทียวทากายาม่าวันนี้ๆ ที่ๆจะไปวันนี้ต้องนั่งรถบัสต่อไปอีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ

ระหว่างนั่งในรถบัสก็เห็นทิวทัศน์สวยงาม
ไม่น่าเชื่อนะว่าอากาซข้างหน้าร้อนขนาดใส่เสื้อยืดเดินได้แล้ว
บนภูเขายังมีหิมะอยู่เลย


แล้วก็ถึง Shirakawa-go ก่อนบ่ายโมงแป๊บเดียว

ชิรากาว่า-โกะ เป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมสมัยโบราณ
โดยมีลักษณะสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า gasshozukuri
เนื่องจากลักษณะของหลังคาบ้านมีรูปร่างเหมือนสองมือพนมมืออยู่
นอกจากนี้หลังค้าบ้านยังสร้างไว้หนามากเพื่อป้องกันหิมะจำนวนมากในฤดูหนาว

อ่อ..นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกเมื่อปี 1995 ด้วยนะ

พอไปถึงแล้วเราสองคนก็เดินชมรอบหมู่บ้าน แล้วก็ปีนเขาขึ่นไปดูหมู่บ้านจากที่สูง
ออกมาหน้าตาเป็นแบบนี้แล


แล้วก็ได้เข้าไปดูในบ้านด้วยนะ
ในบ้านทีที่ปิ้งปลาเหมือนที่เคยอ่านในโดราเอม่อนเลย ฮ่าๆๆ

หลังจากเดินดูหมู่บ้านจนหนำใจแล้ว ก็ขึ้นรถบัส (ซึ่งมาเลทไป 1 ชม.)
กลับไปยังทากายาม่า

อ่อ..โรงแรมที่จองไว้อยู่ที่ทากายาม่านั่นเอง

มาถึงทากายาม่าก็มืดแล้ว ลุงเจ้าของที่พักก็ขับรถมารับ
เห็นบอกว่าที่พักที่นี่เราเป็นคนไทยกลุ่มที่สามที่มาพัก
เคยมีดารามาพักด้วย ลุงเอารูปให้ดูแล้วเราก็ว่าหน้าตาคุ้นๆนะ แต่จำไม่ได้ว่าใคร เหอๆ

บ้านพักญี่ปุ่นมากอ่ะ ชอบๆ
อาหารเย็นป้สห็เสิร์ฟเต็มที่ คุ้มกับตังค์ 7,000 เยนที่เสียไปจริงๆ
หลังจากนั้นบอกว่าอยากไปออนเซ็น ลุงก็ขับรถไปส่งอีก
พออาบน้ำเสร็จลุงก็ขับรถมารับ โอ้ววว บริการทุกระดับประทับใจ

กลับมาถึงที่พัก นอนหลับพักผ่อน

........................................................................................................

วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม
ตื่นเช้ามา ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วก็กินข้าวเช้า
ป้าเสิร์ฟอาหารไม่ยังอีกแล้ว สงสัยจะกลัวไม่อ้วน เหอๆ

แล้วก็เก็บข้าวของ จ่ายเงิน แล้วลุงก็ขับรถออกไปส่งที่สถานี
ประทับใจมากบ้านพักนี้ ใครจะไปก็ถาม (พี่จิ๋ว) ได้ เหอๆๆ

วันนี้เราจะไปเที่ยว Takayama กันตามที่บอกไว้
อ่อ.. จะบอกว่าที่นี่มีสัญลักษณ์อยู่อย่างหนึ่ง เหมือนเป็นมาสค็อตของหมูบ้านไงไม่รู้
ทั้งทากายาม่าและชิรากาว่าโกะจะมีเจ้าตัวนี้ ชื่อว่า "ซารุโบโบ"

ตอนแรกก็งง มันตัวอะไรหว่าแดงๆ
เมื่อวานเลยไปถามลุงมา ได้ความมาว่า ที่นี่สมัยก่อนเวลามีเด็กเกิดใหม่
แม่จะเย็บเจ้าตัวนี้ไว้ให้ลูก เพื่อให้ทั้งคูมีสุขภาพดี
เป็นรูปลูกลิงนะเห็นแดงๆแบบนี้ เพราะว่า "ซารุ" แปลได้ทั้งว่า ลิง และ หาย (ไข้) นั่นเอง

พอถึงทากายาม่าแล้วก็เดินต่อไปยัง "ตลาดเช้า"
พูดถึงตลาดเช้านึกถึงตอนไปลาวยังไงก็ไม่รู้ ฮ่าๆ
แต่พอไปถึงตลาดมันก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น มีขายของทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นผักดอง


แล้วก็เดินต่อไปยังย่านเมืองเก่า
อ่อ ที่ทากายาม่านี่ถูกขนานนามว่าเป็น Little Kyoto นะ
เพราะลักษณะเมืองเก่าที่มีรูปแบบบ้านแบบญี่ปุ่นสมัยโบราณอยู่ที่ถนนเส้นหนึ่ง

แต่เพราะเนื่องจากเราไปเกียวโตบ่อยก็เลยเฉยๆ แหะๆ
สนใจที่ของกินชื่อดังของที่นี่มากกว่า...

ของดังของที่นี่มีหลายอย่างนะ
ที่จำได้ก็คือ เนื้อวัว เซมเบ้ ลูกพลับ โซบะ
ที่เห็นอยู่ในรูปคือซูชิหน้าเนื้อวัววางอยู่บนเซมเบ้
โอ้ววว เนื้อมันแว๊บบบบ แถมลงในหนังสือนำเที่ยวที่ไปอ่านเจอตอนหลังว่าเป็นของกินที่หามพลาดซะด้วย

นอกจากนั้น..ยังได้ชิมชาโซบะด้วยนะ เหอๆ
ตอนไปเล่นสกีทที่นากาโน่คราวก่อนแอบงงมีไอติมรสโซบะ ที่นี่ก็มีค่ะ (แต่ไม่ได้ลองนะ)

หลังจากเดินย่านนี้เสร็จก็เดินต่อไปยังหมู่บ้าน ที่มีบ้านเก่าลักษณะแบบชิรากาว่าโกะ
แต่ตอนนี้เหนื่อยมากอ่ะ อากาศก็ร้อน แล้วไหนลุงบอกว่ามันไม่ไกลไงคะ
เดินประมาณเกือบสองชั่วโมงได้ (อันนี้ไม่ได้เว่อร์นะ) แถมขึ้นเขาด้วย

พอไปถึงเสียตังค์เข้าไป 700 เยน ก็เจอบ้านหน้าตาเตดิมๆแบบที่เจอเมื่อวาน
ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไรถือว่าออกกำลังกาย

ขากลับก็เลยนั่งบัสกลับ แบบว่าเดินม่ายหวายแล้วค่า ไกลเกิน
มาถึงสถานีทากายาม่า ก็เดินซื้อของฝากไปเรื่อยๆรอเวลารถไฟกลับ

พอบ่ายสองครึ่งก็ไปดูรถไฟกะว่าจะนั่งรถด่วนกลับไปนาโกย่าเลยจะได้ไม่เสียเวลา
แต่ที่ไหนได้... รถด่วนเต็ม เหอๆ ก็ไม่รู้ว่ามันต้องจองนี่หน่า~
เลยนั่งรถหวานเย็นกลับ...

สองชั่วโมงครึ่งถึงสถานีที่แม่นาโฮโกะมาส่งเมื่อวาน Mino-ota
แล้วก็อีกชั่วโมงนึงนั่งไปถึงสถานี Gifu
แล้วก็อีกประมาณชั่วโมงนึงนั่งไป ถึง Maibara
จนไปถึง Takatasuki เวลาประมาณสองทุ่มครึ่งนั้นแล

โอย..นั่งรถไฟจนเมื่อยตุ้มไปเลย

แวะออกไปกินข้าวเล็กน้อย
แล้วก็กลับบ้าน โดนเปลี่ยรถไปอีกสองรอบเหมือนเคย เหอๆๆ

.................................................................

เป็นไงบ้าง การเที่ยวแบบวัดดวงของเรา
ตอนแรกกะว่าจะแวะที่อื่นที่นั่งรถไฟผ่านอีกนะ
แต่ตอนนั้นมันเย็นมากแล้วถ้าแวะมันก็คงปิดหมดแล้ว เลยล้มเลิกไป
แต่ถือว่าคุ้มมากไปเที่ยวคราวนี้ ได้เที่ยวทุกที่ที่อยากไป
ถึงแม้จะนั่งรถไฟนานไปหน่อยแต่ก็ไม่เบื่อเลย เพราะคุยกะพี่จิ๋วตลอดทาง ฮ่าๆๆ

สุดท้ายขอบคุณนาโฮโกะและคุณแม่ที่ให้ที่พักและการต้องรับเป็นอย่างดี
แล้วก็ขอบคุณพี่จิ๋วที่เป็นล่ามให้ในทุกสถานการณ์และการติดต่อทุกอย่าง วางแผนทุกอย่าง
ถ้าไม่ได้ไปกับพี่จิ๋วคงไม่ได้เที่ยวแบบนี้แน่ๆ แล้วก็ขอบคุณสำหรับน้องหมีของขวัญวันเกิด
ที่ซื้อจากพิพิธภัณฑ์น้องหมีที่เดินผ่านไประหว่างเดินขึ้นเขา (หลังจากที่พี่ใหม่ให้หนังสือทำอาหารมา
เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ขอบคุณพี่ใหม่ด้วยฮ้าบบบบ)

(ไม่กล้าแกะออกจากถุงเลยง่ะ)

แล้วพบกันใหม่ในการเดินทางครั้งหน้าจ้า...

13 Comments:

Anonymous Anonymous said...

อ่า
แอบไปฝึกงานกลับมาแป๊บเดียว ย้ายบล๊อคหนีเราไปซะดื้อๆเลย
..เห็นไปเที่ยวนาโกย่ากะทาคายาม่าแล้วก็อิจฉาๆๆๆๆ.. อยากไปอีกอ่ะ
ได้ซื้อซารุโบโบะกลับมารึป่าวจ๊ะ
((อยากได้ไอ้ตัวใหญ่ๆที่มันนั่งอยู่ตามหน้าร้าน omiyake มากๆเลยอ่ะ T_T))

แวะมาเยี่ยมบล๊อคใหม่
ไม่มีอาไรมากมาย
คุณไอ่แค่อยากจะมาบอกว่า คิดถึงคุณโบว์เหมือนกันน๊า
แต่ว่าไม่ค่อยจะมีเวลา+อารมณ์ จะเม้นท์ จะเมล อะไรซักเท่าไหร่ แค่เข้ามาอัพเดทข่าวคราวของคุณโบว์ in japan เฉยๆ คงไม่ว่ากันเนอะ
อ้อ อีกอย่าง เดี๋ยวจะลืมไปซะก่อน ช่วงนี้ยิ่งเบลอๆ กลวงๆ อยู่ด้วย ยังไงก็ขอ Happy Birthday ล่วงหน้าก่อนเลยละกันนะจ๊า (อีกไม่กี่วันเองอ่ะ แหม) แต่ก็เห็นคุณโบว์แฮปปี้ดีมีความสุข เที่ยวจนจะทั่วประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้ว เลยไม่รุจะอวยพรอะไร งั้นขอให้มีความสุขงี้ไปนานๆ แล้วอย่าช๊อปปิ้งจนเพลินนะ เหลือเงินไว้ซื้อของกลับมาฝากเพื่อนบ้าง อิอิ :)

3:55 PM  
Anonymous Anonymous said...

สนุกๆๆสนุกมากกกกกก
ไว้ไปไหนอีกดีละเนี่ยยย ไปแบบนี้อีกนะ มั่วๆดวงๆเนี่ย หนุกๆ

ขอบคุณโบกลับมั่ง สำหรับการที่เป็นคนช่างคุยทำให้ไม่เบื่อเลย 555
ทำให้ได้มีโอกาสเจอบ้านนาโฮโกะ น่ารักจิงๆ ชอบๆๆ

where is our next stop!?!

5:33 PM  
Anonymous Anonymous said...

พี่อุ๋มค่า....

โอ้ยยย อิดฉาน้องโบว์อ่ะ เที่ยวคุ้มไปมั้ย นี่ตกลงแกไปเรียนหรือไปเที่ยววะเนี่ย อิดฉาโว้ยยย
อย่าลืมมาเยี่ยมพี่ที่จอแดนละกัน หุหุหุ จะได้เก็บห้องรอ (ตอนนี้รกมากๆๆๆ)

11:17 PM  
Anonymous Anonymous said...

ยาวมากเลย

สมเป็น Golden week จริงๆ
เนื้อน่ากินมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก


take care
เปนห่วงนะ -_-

เอามาแบ่งกันกินด้วย

12:04 AM  
Anonymous Anonymous said...

เวลาอาบน้ำ ใส่ชุดไรอาบวะ
..............
เพื่อนโบว์ บางคน น่าจะ น่ารักนะ หึหึ

1:08 AM  
Blogger noomai said...

แง... หนีเราไปเที่ยวกันสองคน.. T_T stop หน้าไปด้วยเด้อ

8:49 AM  
Anonymous Anonymous said...

โอย...เห็นซูชิเนื้อวัว น้ำลายก็ไหลแล้วผม :P

4:07 PM  
Anonymous Anonymous said...

โอ้ยยย.. อยากกินซูชิหน้าเนื้อง่ะๆๆๆ โอ้ย.. ท้องร้องเลย..

ไอ้สระน้ำที่ โอเอซิส21 เนี่ย ถ้ามันลงไปว่ายได้คงน่าตื่นเต้นดีเนอะ มองเห็นข้างล่างด้วย (แล้วคนข้างล่างมองขึ้นมาก็เห็น 555)

เฮ้อ.. สนุกล่ะสิ ได้ไปเที่ยวบ่อยๆเนี่ย อิจฉาๆๆๆ :P

7:04 PM  
Anonymous Anonymous said...

อิจฉา ได้เที่ยวเยอะจัง
ไว้จะเก็บตังไปเที่ยวนะ
เป็นไกด์ให้ด้วยล่ะ

10:28 PM  
Blogger NoTtO said...

อยากไปๆๆๆๆๆ takayamaaaaaaa

11:07 PM  
Anonymous Anonymous said...

haha notto....it's another MUST-SEE lei laaa...huhuhu

11:39 PM  
Blogger Oakyman said...

ชิราคาว่าโก หน้าหนาวสวยมากกกๆๆๆๆๆๆๆ

2:10 AM  
Blogger *BoW* said...

หน้าหนาวไม่อยู่แล้วพี่โอ้ค ต้องไปหน้านี้แหละ หุหุ

10:23 AM  

Post a Comment

<< Home